GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "RTX 3080"
RTX 3070 Ti, RTX 3080 อาจวางขายรุ่น Refresh ที่อัปเกรดแรมมากขึ้นในช่วง 3 เดือนนี้!
คิดว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเกมเมอร์หลายๆ คน เมื่อมีข่าวลือว่า Nvidia เตรียมผลิตการ์ดจอ 3 รุ่น 2060 3070Ti และ 3080 ชุด Refresh ที่เพิ่มความจุของแรมให้มากขึ้นให้เพียงพอต่อการใช้งาน และไม่น้อยหน้าการ์ดจอรุ่นอื่นๆ ที่มีในตลาด พร้อมทั้งสามารถเล่นเกมในยุคปัจจุบันซึ่งมีการใช้แรมของการ์ดจอมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย 2060 มีกำหนดจะมาในช่วงต้นเดือน ธันวาคม นี้ ส่วนรหัส 30 จะมาช่วงต้นปีหน้า@hongxing2020 ผู้ปล่อยข่าวเชื่อว่า 2060 ใหม่จะมาพร้อมความจุแรม 12GB ส่วน 3070Ti จะให้เยอะถึง 16GB ในสินค้าชุดใหม่ สำหรับ 3080 จะเพิ่มจากเดิมอีกเล็กน้อยเป็น 12GB เทียบเท่ากับพี่ใหญ่ 3080Ti เอาจริงๆ เป็นเรื่องแปลกที่ Nvidia ตัดสินใจจะปล่อยสินค้าเวอร์ชันอัปเกรดจากปี 2019 ออกมาในช่วงปลายปี 2021 แต่เมื่อมองไปที่สถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน มันอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยคงไม่พ้นเรื่องการลดแรงขุด ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่ารุ่นใหม่เองก็จะลดแรงขุดไม่ต่างจากหลายๆ รุ่นที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ แต่ประเด็นสำคัญจริงๆ คงเป็นเรื่องว่าจะมีของขายในตลาดรึเปล่า? มากกว่า เนื่องจากความต้องการการ์ดจอในตลาดประเทศไทยเรียกได้ว่าสูงมากจริงๆ คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีพ่อค้าทำการซื้อการ์ดบางส่วนไปเก็งกําไร ยังไงต้องรอดูกันต่อไป11.1 update:1. 2060 12G —12/7 on-shelf。2.3070Ti 16G、3080/12G —12/17 PPT發佈, 2022/1/11 正式開賣。— hongxing2020 (@hongxing2020) November 1, 2021 Credit : Tom's Hardware
02 Nov 2021
Asus จดสิทธิบัตร RTX 3070 Noctua บอกใบ้ถึงการร่วมมือกันระหว่างสองแบรนด์
Asus เป็นหนึ่งในผู้ผลิตการ์ดจอที่มีชื่อเสียง สินค้ามีคุณภาพสูงโดยเฉพาะในเรื่องความแรงของชิป และการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ แต่หลังจากนี้เราอาจได้เห็นการ์ดจอจากทาง Asus ในรุ่นที่สามารถระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เมื่อล่าสุดเหมือนว่าจะมีการจับมือกับ Noctua เพื่อออก RTX 3070 รุ่นใหม่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Noctua พวกเขาคือแบรนด์ที่ทำอุปกรณ์ระบายความร้อนภายใน PC ที่ยอดเยี่ยมเจ้าหนึ่งของโลก ถ้าหากว่าพูดถึงพัดลมเคสที่มีรอบสูงๆ หรือ Heatsink ลมอันดับต้นๆ ของโลก หนึ่งในนั้นจะต้องมีสินค้าของ Noctua อยู่ด้วยอย่างแน่นอน มันจึงทำให้การร่วมงานครั้งนี้หมายถึงการ์ดจอแรงดีกรีระดับ Asus ที่ระบายความร้อนได้ดีระดับ Noctuaแต่คำถามที่น่าสนใจคือทำไมถึงเป็น RTX 3070 เนื่องจากการระบายความร้อนของ Asus ในการ์ดจอซีรีส์ 30 ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ อยู่แล้ว มันดูไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องไปจับมือกับแบรนด์เชี่ยวชาญการระบายความร้อนในครั้งนี้ ถ้าหากว่ารุ่นที่ทำเป็น 3080Ti หรือ 3090 ก็ยังพอเข้าใจได้ ในจุดนี้คิดว่าต้องรอดูข้อมูลกันต่อไปCredit: Tom's Hardware 
05 Aug 2021
MSI ฉลองครบรอบ 35 ปี เตรียมเปิดตัวการ์ดจอรุ่นพิเศษวันพรุ่งนี้ คาดเป็น 3080 Ti หรือ 3090 รุ่น SUPRIM Limited
1 มิถุนายน 2021 ถือเป็นวันครบรอบ 35 ปีของบริษัท MSI ซึ่งทางบริษัทมีแผนจะเปิดตัวการ์ด RTX 30 Series โมเดลพิเศษเพื่อฉลองในวันครบรอบนี้ โดยคาดว่าอาจเป็นการ์ดรุ่น RTX 3080 Ti ซึ่งจะเปิดตัววันนี้ หรือไม่ก็ RTX 3090 ตัวท็อป โดยโมเดลจะใช้รุ่น SUPRIM เป็นฐานมีภาพของการ์ดจอรุ่นพิเศษนี้หลุดออกมาแล้ว โดย SUPRIM รุ่นครับรอบนี้จะมีเลข 35 อยู่ตรงกลางของพัดลม และเปลี่ยนสีของตัวการ์ดเป็นสีสีดำ ซึ่งภายในไลฟ์สตรีมวันพรุ่งนี้นอกจากการ์ดจอใหม่แล้วทางบริษัทยังมีแผนจะโชว์ Notebook รุ่นใหม่ด้วยไลฟ์สตรีมจะเริ่มประมาณ 14.00 ตามเวลาบ้านเราวันพรุ่งนี้ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถรอดูกันได้เลยผ่าน Youtube หรือ Twitch Credit : https://videocardz.com/newz/msi-to-launch-geforce-rtx-30-suprim-35th-anniversary-limited-edition-graphics-card
31 May 2021
Gigabyte ส่งรายชื่อ RTX 3080 Ti กว่า 12 รุ่นให้กับ EEC แล้ว คาดเตรียมวางขายอย่างเป็นทางการ พฤษภาคม
หลังจากมีข่าวออกมาว่า Nvidia เลื่อนวันขาย RTX 3080 TI ออกไปเป็นเดือน พฤษภาคม แทน เหล่า PC เกมเมอร์ก็ดูจะกระหายข้อมูลใหม่ๆ ของการ์ดรุ่นนี้กันพอสมควร ซึ่งล่าสุดทาง Gigabyte ได้ส่งรายชื่อการ์ดทั้ง 12 รุ่นที่เป็น รหัส RTX 3080 Ti ให้กับ Eurasian Economic Commission (EEC) แล้ว คาดว่าจะไม่เลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีกการ์ด RTX 3080 Ti จะมาพร้อมกับสเปค NVIDIA CUDA Core 10240 ที่แรงเกือบเทียบเท่ากับ RTX 3090 ในแง่ของความสามารถประมวลผล แต่ตัวการ์ดมาด้วย RAM ที่น้อยกว่าถึง 8 GB ทำให้การเอาไปเล่นแบบ 8K น่าจะเป็นไปได้ยากสำหรับรุ่นนี้ ส่วนเรื่องของราคายังไม่มีความเคลื่อนไหวจากทาง Nvidia แต่คิดว่าน่าจะเปิดตัวที่ 35,000 โดนประมาณครับอย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ราคาการ์ดจอบ้านเราในตอนนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถหาซื้อการ์ดรุ่นนี้ได้รึเปล่าช่วงเดือนแรกที่วางจำหน่าย ต้องไปรอลุ้นพร้อมกันอีกทีครับCredit : https://videocardz.com/newz/gigabyte-submits-twelve-geforce-rtx-3080-ti-12gb-graphics-cards-to-eec
30 Mar 2021
RTX 3070 ถูก Modder อัพเกรด RAM เป็น 16 GB แล้วใช้งานได้!
วางจำหน่ายกันออกมาหลายรุ่นแล้วสำหรับการ์ดจอ RTX 30 Series จากทาง Nvidia (โดยปัจจุบันขาดตลาดจนหาซื้อไม่ได้ไปแล้ว) ซึ่งหลังจากที่ได้ดูใส่ในของการ์ดบางรุ่นแล้ว อาจสังเกตได้ว่า RAM ที่ใส่มาด้วยยังไม่ถือว่า Maximum บ้างก็เหลือไว้ 2 ช่อง บ้างก็เหลือไว้ 1 ช่อง ทำให้หลายคนคิดว่า "จะต้องมีการออกรุ่น Ti มาให้ด้วยอย่างแน่นอน" ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วโดยการเปิดตัวรุ่น 3080 Ti ที่มี RAM 12 GB น่าเสียดายที่สำหรับ RTX 3070 อาจไม่ใช่แบบนั้นเนื่องจากตัวการ์ดส่วนใหญ่มีการใส่ RAM มาแบบ Maximum แล้ว ดังนั้นคิดว่าคงไม่มีการออกการ์ด RTX 3070 Ti ในอนาคต ซึ่งเอาจริงๆ RAM 8 GB ของการ์ดรุ่นนี้ถือว่าน้อยไปเมื่อเทียบกับความสามารถของหัวประมวลผล Modder สุดโหดคนหนึ่งจึงได้ทำการอัพเกรด RAM ของการ์ดใบนี้ด้วยตัวเอง!!!! โดยการอัพเกรด RAM ของเขาไม่ใช้การใส่เพิ่มเข้าไป แต่เป็นการเอาตัว RAM ตัวเก่าบนการ์ดออก แล้วใส่ตั่วที่มีความจุช่องละ 2 GB เข้าไปแทนที่ (ปกติ RAM การ์ดจอ 1 ช่องจะเท่ากับ 1 GB) ที่สำคัญคือหลังทำเสร็จแล้ว การ์ดดังกล่าวสามารถทำงานได้เป็นปกติ แถมยังรัน Benchmark ได้ด้วย!! Credit: https://www.pcgamer.com/modder-gives-rtx-3070-a-16gb-upgrade-before-nvidia-has-the-chance/
10 Mar 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
จัดอันดับการ์ดจอ PC ที่คุ้มค่ากับการซื้อมาเล่นเกมมากที่สุดในตอนนี้!
ด้วยความที่ตอนนี้วงการเกมกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ที่ภาพ / กราฟิก ถูกยกระดับให้มีความสวยงามสมจริงมากขึ้น (ยุคนี้ต้อง 4K / 60 FPS) เชื่อว่าผู้เล่นบนเครื่อง PC ก็กำลังสนใจที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดจ่อซีรีส์ใหม่กันอยู่ไม่มากก็น้อย ส่งผลให้ในปัจจุบันการแข่งขันในตลาดของ Hardware เป็นไปอย่างดุเดือดมากๆ ระหว่าง AMD กับ Nvidia  แม้ว่าการ์ดจอของทั้ง 2 ค่ายจะถือว่าแรงมากๆ และมีความแตกต่างกันไม่มาก แต่เชื่อว่าเหล่า PC เกมเมอร์ก็ยังอยากได้การ์ดจอดีที่สุด ในราคาดีที่สุดสำหรับตัวเองอยู่ดี ส่งผลให้หลายคนยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อการ์ดจอรุ่นไหน ของค่ายไหนถึงจะเรียกได้ว่าดีที่สุด ทางเรา GameFever Th จึงได้จัดอันดับรายชื่อการ์ดจอที่คุ้มค่าจะซื้อมาเล่นเกมที่สุดมาให้ในบทความนี้ครับ ก่อนที่จะไปเริ่มดูกันว่าการ์ดจอตัวไหนบ้าง ขอออกตัวก่อนว่าในบทความนี้เราไม่ได้พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำเอาเรื่องของราคา รวมถึงความคุ้มค่าที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนนด้วย แน่นอนว่าจะมีการเขียนบอกข้อดี รวมถึงเหตุผลของการ์ดจอแต่ละอันดับด้วย ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ! อันดับ 1 Nvidia GeForce RTX 3080 CUDA cores: 8,704 Base clock: 1,440MHz Boost clock: 1,710MHz TFLOPs: 29.76 Memory: 10GB GDDR6X Memory clock: 19 GT/s Memory bandwidth: 760GB/s 3080 คือการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS โดยปรับ Setting สูงๆ ได้ แถมยังมาในราคาเพียงแค่ 25,000 - 35,000 เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่การ์ดตัวนี้เป็นรุ่นที่น่าซื้อมากที่สุดแล้วในตอนนี้ ยิ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับหัวคำนวณ Ray Tracing ที่ดีกว่าเจนแรกมากด้วยแล้ว ยิ่งควรค่าแก่การหามาเปลี่ยนมากขึ้นไปอีกครับ น่าเสียดายที่ด้วยความยอดเยี่ยมของตัวการ์ด เลยทำให้หาซื้อได้ยากมากๆ เช่นกัน และด้วยความที่หาซื้อยาก เลยทำให้ราคาของตัวการ์ดเพิ่มสูงขึ้นหลายพันบาทเลยในตอนนี้ นอกจากนี้ตัวการ์ด RTX 3080 ยังกินไฟค่อนข้างมาก การมี Power Supply กำลังไฟ 850W จึงเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดที่เราอาจต้องคำนึงหากจะหาซื้อการ์ดตัวนี้มาใช้ครับ อันดับ 2 AMD Radeon RX 6800 XT RDNA cores: 4,608 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 20.74 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s ถ้าเอาแค่เรื่องความแรงของตัวประมวลผลของการ์ดเพียงอย่างเดียว RX 6800 XT ถือได้ว่าเป็นการ์ดที่แรงกว่า RTX 3080 ในราคาที่ถูกกว่าประมาณ 1,500 - 5,000 บาทครับ (ราคาอยู่แถวๆ 23,000 - 32,500 บาท) แถมยังเป็นการ์ดรุ่นที่มี Memory มากกว่าถึง 16 GB ด้วย ส่งผลให้การ์ดตัวนี้สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ด้วย Setting สูงๆ ได้แบบสบายๆ เช่นเดียวกัน น่าเสียดายที่เมื่อพูดถึงประสบการณ์เล่นเกมแล้ว เจ้า RX 6800 XT จะสามารถดัน FPS ได้น้อยกว่า RTX 3080 เมื่อเปิดใช้งาน Ray-Tracing นอกจากนี้การ์ดทางฝั่งของ Nvidia ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันที่ชื่อว่า DLSS 2.0 เพื่อเพิ่ม FPS ที่ได้ รวมถึงคุณภาพของกราฟิกได้ด้วย ส่งผลให้การยอมจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย เพื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่ามากกว่าครับ อันดับ 3 Nvidia GeForce RTX 3060Ti CUDA cores: 4,864 Base clock: 1,410MHz  Boost clock: 1,665MHz TFLOPs: 16.20 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s น้องเล็กสุดของตระกูล RTX 30 Series ตัวการ์ดมาพร้อมกับประสิทธิภาพระดับเดียวกับ RTX 2080 Super แต่มีหัว Ray-Tracing ที่ดีกว่า และราคาเพียงแค่ 13,000 - 19,000 บาทเท่านั้น ด้วยประสิทธิภาพที่ได้ กับราคาที่ต้องจ่าย เลยทำให้เจ้าการ์ดน้องเล็กใบนี้ได้อันดับ 3 ไปในลิสต์นี้ครับ แม้จะไม่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ได้ใน Setting สูงๆ เหมือนกับพี่ๆ ในซีรีส์เดียวกัน แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบมากมายในการประกอบ PC หนึ่งเครื่องแล้วละก็ RTX 3060Ti คงเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกดีที่สุดในตอนนี้ครับ แต่น่าเสียดายที่อาจหาของได้ยากสักหน่อยช่วงนี้ อันดับ 4 Nvidia GeForce RTX 3070 CUDA cores: 5,888 Base clock: 1,500MHz Boost clock: 1,725MHz  TFLOPs: 20.37 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s พี่คนรองใน RTX 30 Series ที่มาพร้อมกับแกนประมวลผล RTX แบบใหม่ซึ่งดีกว่าเช่นกัน แต่ด้วยความที่ราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 19,900 - 28,900 ซึ่งห่างไกลจาก RX 6800 XT ไม่มาก เลยทำให้เจ้า RTX 3070 ได้อันดับที่ 4 ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามถ้าหากไม่ได้ต้องการจะเล่นเกมด้วยความละเอียด 2K / 60 FPS รวมถึงเปิด Ray-Tracing ไปด้วย RTX 3070 ก็ยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีมากๆ ถ้าหากว่าเพื่อนๆ เป็นสาวกค่ายเขียว และต้องการการ์ดจอที่แรงพอสมควรในราคาช่วง 20 กลางๆ เจ้า 3070 คือตัวเลือกที่ดีมากครับ อันดับ 5 AMD Radeon RX 6900 XT RDNA cores: 5,120 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 23.04 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s คงสามารถพูดได้ว่านี้คือการ์ดที่แรงมากที่สุดของทางฝั่งค่ายแดงแล้วในตอนนี้ ด้วยความที่แรงเกือบเทียบเท่ากับ RTX 3090 ซึ่งแรงที่สุดของทางฝั่งค่ายเขียวแต่มีราคาที่ถูกกว่าถึง หลายหมื่นบาท (ราคาอยู่ที่ประมาณ 32,000 - 42,000 บาท) จึงทำให้ การ์ดใบนี้อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายชื่อครับ จริงอยู่ว่าการ์ดตัวนี้มีความแรงที่สูงมากๆ แถมยังมีราคาเริ่มต้นไม่ไกลจากราคาสูงสุดของ RTX 3080 มากนัก แต่ถ้าหากเพื่อนๆ จะซื้อมาเพื่อเล่นเกมระดับ 4K / 60 FPS แล้ว ด้วยความที่ทาง Nvidia มีหัว Ray-Tracing กับเทคโนโลยี DLSS อยู่ จึงยังทำให้ RTX 3080 มีภาษีที่ดีมากกว่าหากจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมครับ อันดับ 6 Nvidia GeForce RTX 3090 CUDA cores: 10,496 Base clock: 1,395MHz Boost clock: 1,695MHz TFLOPs: 35.68 Memory: 24GB GDDR6X Memory clock: 19.5 GT/s Memory bandwidth: 935.8GB/s พี่ใหญ่ รวมถึงเป็นการ์ดจอรุ่นที่แรงสุดของโลกในตอนนี้ สามารถเล่นเกมได้ถึงความละเอียด 8K แต่ด้วยราคาที่แพงมากๆ (ประมาณ 55,000 - 65,000 บาท) บวกกับประสิทธิภาพที่แทบไม่ต่างจาก RTX 3080 เลยเมื่อเล่นเกมที่ความละเอียด 4K จึงทำให้การ์ดรุ่นนี้ดูไม่คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ครับ แน่นอนว่าถ้าอยากไปให้สุดในเรื่องของความแรงกับการเล่นเกมบนจอ 8K ยังไงเพื่อนๆ ก็จำเป็นต้องซื้อ RTX 3090 ครับ แต่จอที่มีความละเอียดสูงถึง 8K ก็เรียกได้ว่ามีราคาที่แพงมากๆ เช่นกัน ไหนจะต้องจ่ายเงินซื้อ CPU แรงๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการคอขวดอีก ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบประกอบ PC ถึงหลักแสน การ์ดจอตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะหามาใช้งานเลยครับ แม้ว่าบทความนี้ของเราจะพูดถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่าย แต่สุดท้ายแล้วเพื่อนๆ จะเลือกซื้อการ์ดจอตัวไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาไปใช้เล่นเกมแบบไหน หรือทำอะไรบ้างครับ แต่ในกรณีที่มีงบเพียงแค่ 50,000 บาท แล้วอยากได้การ์ดจอที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากที่สุด ก็หวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยเพื่อนๆ ได้ ถ้าหากมีคำถามอะไรก็สามารถถามในคอมเม้นต์ของโพสต์นี้ได้เลย ถ้าตัวผมสามารถช่วยได้ ก็ยินดีจะช่วยไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ครับ!
07 Jan 2021
รู้ก่อนซื้อ! ถ้าต้องเปลี่ยนการ์ดจอใหม่ตอนนี้เป็น NVIDIA GeForce RTX 30 Series จะเลือกรุ่นไหนดี
ปีนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีในการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่เห็นเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ก็เปิดตัวไปแล้ว ( แต่เมืองไทยยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายก็ตาม ) นอกจากนี้เกมเมอร์ฝั่ง PC ก็คงได้เห็นการเปิดตัวการ์ดจอ [GPU] ของทั้งค่ายเขียว NVIDIA และ ค่ายแดง AMD ในซีรีส์ใหม่กันไปแล้วเรียกว่ากระแสตอบรับดีทั้งสองค่ายเลย แต่เหมือนปีนี้จะหนักไปทางค่ายเขียว NVIDIA ซะมากกว่า เพราะดูเหมือนว่า “GeForce RTX 30 Series” ที่เวลานี้ได้วางจำหน่ายออกมาแล้วทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันไล่มาตั้งแต่ตัวท็อป GeForce RTX 3090, GeForce RTX 3080, GeForce RTX 3070 และ GeForce RTX 3060 Ti นี่ยังไม่นับรวมรุ่นอื่น ๆ ของซีรีส์นี้ที่มีแผนจะเปิดตัวในปีหน้าด้วย วันนี้เกวลินเลยจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักการ์ดจอของแต่ละรุ่นว่าอันไหนเหมาะกับเพื่อน ๆ กันบ้างค่ะ   GeForce RTX 3090 เป็นรุ่นท็อปสุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้สำหรับ “GeForce RTX 3090” การ์ดจอรุ่นนี้ทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่ามันคือนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนามาจากการ์ดจอรุ่น GeForce GTX TITAN เพราะว่าหลังจากนี้ไปการ์ดจอตระกูล TITAN ทาง NVIDIA ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกพัฒนาแล้วหันมาใช้เป็นเลขรหัสแทน โดยพวกเขาได้เครมเอาไว้ว่าประสิทธิภาพของการ์ดจอตัวนี้สามารถเล่นเกมในความละเอียด 8K ได้อย่างสบาย ๆ ด้วย Ampere สถาปัตยกรรม RTX รุ่นที่ 2 ที่ทำให้เมื่อผู้เล่นเปิดใช้งาน Ray Tracing และ AI การทำงานจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากผลการทดสอบแสดงให้เห็นแล้วว่า “เมื่อผู้ใช้งานเปิด DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตจะสูงขึ้นมากกว่าตอนปิดการใช้งานเสียอีก!” ด้วยความที่มันเป็นการ์ดจอตัวท็อปสุดของ “GeForce RTX 30 Series” จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามมากมายต่อเกมเมอร์ว่า “เราควรซื้อการ์ดจอตัวนี้ใช้งานเลยดีไหม!?” เพราะราคาก็เริ่มต้นอยู่ที่ 52,000 บาทขึ้นไป ( แล้วแต่แบรนด์ แต่รุ่นกันด้วย ) ซึ่งจัดอยู่ในราคาที่สูงมาก เราก็ต้องมาดูกันก่อนว่าถ้าเราซื้อการ์ดจอ GeForce RTX 3090 คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าเอามาแค่เล่นเกมกับสตรีมถ่ายทอดสดอย่างเดียว บอกเลยว่ามันดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ ตัวการ์ดรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดกินพื้นที่ในการติดตั้งไปมากกว่า 3 ช่อง ถ้าเคสคอมพิวเตอร์ของเราเป็นขนาดเล็กก็ต้องมีการจัดวางระบบภายในใหม่ทั้งหมดเพื่อให้การระบายความร้อนได้ดีขึ้น แล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือการ์ดจอ GeForce RTX 3090 กินไฟสูงใช้ได้เลยค่ะ ถ้า Power Supply ของเรามีกำลังวัตต์น้อยจนเกินไปก็ไม่สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้ได้นะคะ ซึ่งทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ขั้นต่ำจะต้องอยู่ที่ประมาณ 750 วัตต์ขึ้นไป อย่างไรก็ตามมันก็อยู่กับว่าอุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ว่าเราใช้ CPU ตัวไหนแล้วมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเกี่ยวกับไฟฟ้าบ้าง เพราะบางครั้งกำลังวัตต์ที่แนะนำไปอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ใช้งานก็จะต้องควักเงินเพื่อเปลี่ยน Power Supply ให้สูงขึ้นแล้วก็เผื่อเอาไว้ด้วย แล้วถ้าใช้ Power Supply รุ่นเก่าอาจจะต้องเปลี่ยนเพื่อจัดการจ่ายไฟอย่างเหมาะสม เพราะการ์ดจอรุ่นใหม่นี้ต้องใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมอยู่ที่ PCle 8 Pin ถึง 2 ตัวด้วยกัน “ใครสเปกคอมพิวเตอร์ภายในสูง ๆ จัดเยอะ ๆ ไว้ก็ดีนะ” แล้วถ้าเพื่อน ๆ ยังคงเล่นเกมบนหน้าจอที่มีความละเอียดเพียงแค่ 1080p ( หรือต่ำกว่านั้น ) การ์ดจอตัวนี้ไม่เหมาะอย่างรุนแรงค่ะ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อให้เล่นในความละเอียด 1440p ไปจนถึง 4K มากกว่าค่ะ ซึ่งทาง NVIDIA เครมว่ามันสามารถรันถึงความละเอียด 8K ได้เลยนะคะ แต่จากผลทดสอบของสื่อต่างประเทศและผู้ที่ใช้งานจริงพบว่า GeForce RTX 3090 สามารถที่จะรันเกมที่ใช้กราฟฟิกสูงพร้อมเปิดใช้งาน Ray Tracing, DLSS หรือ รันเกมบน DirectX 12 ในความละเอียด 4K แล้วเฟรมเรตทะลุ 60fps ได้อย่างสบาย ๆ อย่างไรก็ตามการ์ดจอตัวนี้นอกจากจะใช้เล่นเกมที่มีรายละเอียดสูงได้แล้ว สิ่งหนึ่งก็คือใครที่ทำงานสายออกแบบกราฟฟิก หรือ ตัดต่อวีดีโอก็ทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3090 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? ราคาที่สูงเกินไป เป็นการ์ดจอที่ขนาดใหญ่, น้ำหนักเยอะ และ ใช้พื้นที่เยอะ ถ้าผู้ใช้ซื้อมาแล้วใช้งานไม่คุ้มค่าอาจจะรู้สึกเสียดายเงินก็เป็นได้ ผู้ใช้จะต้องปัจจัยส่วนอื่น ๆ ภายในคอมพิวเตอร์ของเราด้วย เพราะการ์ดจอกินไฟสูงมาก อาจจะต้องมีการเพิ่มงบเพื่อให้สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้เต็มประสิทธิภาพ การ์ดออกแบบมาเพื่อให้เราใช้ในการทำงานด้านกราฟฟิกและเล่นเกมในความละเอียด 4K หรือมากกว่า GeForce RTX 3080 ในเมื่อการ์ดจอตัวท็อปอย่าง GeForce RTX 3090 มีราคาที่สูงเกินไปทาง NVIDIA ก็มีการออกแบบการ์ดจอรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “GeForce RTX 3080” มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 31,000 บาทขึ้นไป ( เช่นเดียวกันค่ะ แล้วแต่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่การ์ดจอตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมโดยเฉพาะเลยค่ะ ราคานี้อาจจะสูงไปสำหรับเกมเมอร์บางคน แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมกราฟฟิกสวย ๆ ในความละเอียดสูง ๆ แล้วมีสเปกคอมพิวเตอร์ที่สูงอยู่แล้วพร้อมกับกําลังทรัพย์มันเป็นหนึ่งในการ์ดจอที่ขอแนะนำเลยค่ะ ขนาดการ์ดจอของ GeForce RTX 3080 จะเล็กกว่า GeForce RTX 3090 นิดหน่อยค่ะ โดยจะกินพื้นที่ประมาณ 2 ช่องเพื่อใช้ในการติดตั้งเช่นเดียวกันค่ะ การเคลียร์พื้นที่ของเคสก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันเพื่อที่จะไม่ให้เคสมีความแออัดเกินไปจนทำให้เกิดความร้อนภายในเคส แต่ถ้าใครที่เคสขนาดใหญ่อยู่แล้วมีพัดลมระบายอากาศที่ดีก็ถือว่ารอดตัวไปค่ะ ในเรื่องของ Power Supply ก็คล้าย ๆ กับการ์ดจอตัวท็อปพอสมควรค่ะ ด้วยความที่ว่าขั้วต่อสายไฟเสริมก็จะใช้ PCle 8 Pin ถึง 2 เหมือนกันดังนั้นเราจะต้องคำนวนเรื่องการจ่ายไฟของระบบให้ดี ถึงแม้ว่าจะมีการอธิบายเอาไว้แล้วว่าขั้นต่ำควรใช้ Power Supply 750 วัตต์ แต่มันก็มีกรณีที่ไฟไม่เพียงพอ ถ้าจะให้เกวลินแนะนำจริง ๆ ควรประมาณ 850 วัตต์ขึ้นไปจะดีมาก ๆ เลยค่ะ ก็เรียกว่าหลังจากที่ประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราในช่วงแรกไป กลายเป็นการ์ดจอรุ่นที่ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์ผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก มันคือการ์ดจอตัวรองท็อปที่มีราคาไม่สูงจนเกินไปแต่แลกมากับประสิทธิภาพที่ถ้าให้เทียบกับรุ่น GeForce RTX 2000 Series การตอบรับยังไม่เท่านี้เลยค่ะ ซึ่งเพื่อนของเกวลินที่สนิทกันเขาตัดสินใจเปลี่ยนการ์ดจอจากเดิมใช้ GeForce GTX TITAN X มาเป็น GeForce RTX 3080 ผลที่ได้ก็คือ “ใช้งานได้ดีกว่าการ์ดตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน” โดยเกมที่เขาเลือกลองทดสอบก็คือ Cyberpunk 2077 เริ่มทดสอบในความละเอียด 1080p ที่ปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing พบว่าเฟรมเรตสูงมาก ๆ แล้วจากนั้นลองสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วยสามารถทำได้ด้วยเช่นกัน “การ์ดจอตัวท็อปที่เล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นไหล แต่ก็สู้อะไรใหม่ ๆ ใน 30 Series ไม่ได้เลย!” จากนั้นก็มีการขยับผลการทดสอบมาเทสในความละเอียด 2K หรือ 1440p แบบปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ แล้วตามมาด้วยการลองสตรีมถ่ายทอดสดบน Youtube ในความละเอียด 1440p/60fps ก็ทำได้ดีแถมยังเหลือ ๆ อีกด้วย บ่งบอกได้เลยว่าการ์ดจอ GeForce RTX 3080 ที่ทาง NVIDIA เครมเอาไว้เลยว่า “มันถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมในความละเอียด 4K ได้อย่างสบาย ๆ” มันสามารถทำได้ตามที่เขาพูดเอาไว้จริง ๆ ค่ะ ดังนั้นถ้าสเปกภายในเครื่องของเราไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ Ram ของเราเป็นตัวท็อป ๆ การ์ดจอรุ่นนี้คุ้มค่าที่คุณจะยอมเสียเงินเป็นอย่างมากค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3080 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เรื่องของราคาก็จัดอยู่ในระดับที่สูงเหมือนกัน แต่ถ้าคุณมีเงินมากพอแล้วอยากจะเล่นเกมแบบลื่นไหลมันก็น่าลงทุน การ์ดจอตัวนี้ก็ยังคงกินไฟสูงเหมือนกัน ดังนั้นต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply กันด้วยนะคะ ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่มีสเปกส่วนอื่น ๆ ก็สูงอยู่แล้ว การ์ดจอตัวนี้จัดไป เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างสบาย ๆ GeForce RTX 3070 เราพูดถึงการ์ดจอตัวท็อปและรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” กันไปแล้ว เรามาพูดถึงตัวกลาง ๆ ที่แท้ทรูกันบ้างค่ะ โดยรุ่นนี้มีชื่อว่า “GeForce RTX 3070” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 18,900 บาทขึ้นไป ( ราคานี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่ายด้วย ) โดยทาง NVIDIA เผยว่าการ์ดจอตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า GeForce RTX 2080 Ti ที่เป็นตัวท็อปของรุ่นที่แล้ว ความพิเศษของรุ่นนี้คงเป็นเรื่องของราคาที่ดูสมเหตุ สมผลมากจริง ๆ ซึ่งเมื่อพอไปเทียบราคากับรุ่นก่อนที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว ๆ 37,000 บาทขึ้นไปมันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ รุ่นก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าปัญหาเรื่องการกินไฟของ Power Supply พอสมควร แต่ GeForce RTX 3070 จะกินไฟขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 650 วัตต์ การเลือกใช้ Power Supply ให้เหมาะสมก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักสำคัญอยู่ดีค่ะ ถ้าจะให้แนะนำควรใช้ Power Supply อยู่ที่ประมาณ 850 วัตต์กำลังดีค่ะ แถมการ์ดจอรุ่นนี้ยังใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมในรูปแบบ PCle 8 Pin เพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น ตัวการ์ดจอมีขนาดที่ใหญ่พอตัวจะกินพื้นที่อยู่ประมาณ 2 ช่อง ผู้ใช้งานเองก็จำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ของเคสด้วย แล้วถ้าเคสมีขนาดเล็กไปก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อที่เราจะสามารถจัดสายไฟแล้วการระบายความร้อนที่อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการประกอบคอมพิวเตอร์ที่ดีนั่นเองค่ะ มาพูดในเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานกันหน่อยค่ะ GeForce RTX 3070 เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในการเล่นเกมได้ทั้งความละเอียด 1080p, 1440p และ 4K ได้เหมือนกัน แต่จะทำได้ขนาดนั้น อุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU, Ram และ Mainboard ด้วย เพราะมันจะเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อให้การทำงานของการ์ดจอเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากผลการทดสอบเกวลินก็พบว่ามันสามารถรันในความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้อย่างสบาย ๆ เฟรมเรตที่ได้จากเกมอยู่ที่ 150 - 200fps กันเลยทีเดียว ส่วนเกมที่ใช้ในการรันความละเอียด 4K จะขับเฟรมเรตออกมาได้อยู่ที่ 59 - 65fps ทั้งนี้ก็อยู่ว่าเกมนั้น ๆ กินทรัพยากรมากน้อยแค่ไหน  ถ้าถามถึงความคุ้มค่า GeForce RTX 3070 มันเป็นการ์ดจอระดับกลางที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี ใครที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ แล้วกำลังมองหาการ์ดจอดี ๆ สักตัวในราคาที่ไม่แรงมากจนเกินไปมันก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยเลยค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3070 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เหมือนทาง NVIDIA เดินเกมถูกมากเพราะมันคือการ์ดจอระดับกลางที่มีราคาจับต้องได้ เป็นการ์ดจอที่กินไฟน้อยกว่า 2 ตัวท็อปก่อนหน้านี้ แต่ยังไงก็ต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply อยู่ดี คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์สเปกกลาง ๆ แล้วอยากเปลี่ยนการ์ดจอเพื่อใช้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น ตัวนี้ก็เหมาะดี เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างลื่นไหล GeForce RTX 3060 Ti มาถึงการ์ดจอตัวสุดท้ายของ “GeForce RTX 30 Series” ที่พึ่งประกาศเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เลยรุ่นที่มีชื่อว่า “GeForce RTX 3060 Ti” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,900 บาทขึ้นไป ( เหมือนเดิมค่ะ ราคาก็จะอยู่ที่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) สำหรับการ์ดจอตัวนี้ยังถือได้ว่าเป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกปรับสภาพลดลงมาจาก GeForce RTX 3070 เล็กน้อย ทาง NVIDIA ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าตัวการ์ดจอรุ่นนี้ออกแบบมาให้เกมเมอร์ทั้งคนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ระดับที่ต่ำลงมาอีกนิดสามารถเป็นเจ้าของการ์ดจอตระกูล GeForce RTX 30 Series ได้ไม่ยาก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีกว่าการ์ดจอรุ่นเก่าของ GeForce RTX ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน สำหรับ “GeForce RTX 3060 Ti” ถือได้ว่าเป็นการ์ดจอที่กินพลังงานไฟน้อยมาก ๆ เพราะทาง NVIDIA อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ที่เหมาะสมในการใช้งานที่สุดอยู่ที่ประมาณ 600 วัตต์ นั้นหมายความว่าถ้าจะให้ดีผู้ที่ใช้การ์ดจอตัวนี้ต้องเลือก Power Supply อยู่ที่ประมาณ 700 - 800 วัตต์กำลังดีค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์กลาง ๆ ก็คงไม่ได้ตกแต่งอะไรมากก็จะใช้กำลังไฟอยู่ที่ราว ๆ นี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว ส่วนการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” มีการทดสอบออกมาเรียบร้อยแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานในการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p กับ 1440p ที่สามารถปรับสุดแล้วเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตที่ได้ก็อยู่ในระดับที่เกินคาดเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ถ้าเราเผลอเปิดใช้งานเทคโนโลยี RTX เฟรมเรตอาจจะดรอปลงไปบ้างเพราะมันจะรีดประสิทธิภาพการ์ดจอให้ทำงานเกือบ 100% ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ที่คิดว่าจะซื้อการ์ดจอตัวนี้มาเล่นเกมแบบปรับสุดทุกอย่างแล้วก็เปิด RTX พร้อมกับสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วย สิ่งที่เราจะต้องคำนึกถึงก็คือว่า “สเปกภายในเครื่องของเราเพียงพอหรือเปล่า!?” ทั้ง CPU ที่เราใช้งานอยู่เป็นระดับไหน แล้วก็ Ram ที่มีอยู่ภายในเครื่อง แม้ว่าจะติดตั้งเอาไว้ 16 GB. แต่บางทีก็ต้องคำนึกถึงตอนเราเล่นเกม ตอนเปิดโปรแกรมต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เพราะปัจจุบัน Ram 16 GB. มันกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่งั้นตอนสตรีมถ่ายทอดสดเปิดอาการกระตุกจนคนดูไม่สนุกแน่นอนค่ะ แล้วถ้าถามว่าการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” เหมาะกับเกมเมอร์ประเภทไหน จริง ๆ แล้วมันคล้าย ๆ กับรุ่นก่อนหน้านี้ค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ CPU ไม่ได้ตัวท็อปอะไรมาก ( หรือเป็นตัวท็อปจากรุ่นก่อน ๆ ) มี Ram อยู่ในตัวเครื่องสัก 16GB. ขึ้นไป แล้วการ์ดจอที่ใช้เป็นรุ่นเก่ามากแล้วรันเกมกราฟฟิกหนัก ๆ ในยุค 2018 - 2020 ที่เฟรมเรตได้ราว ๆ  45 - 50fps แถมกราฟฟิกปรับสุดก็ไม่ได้ แปลว่าเพื่อน ๆ คือหนึ่งในคนที่ควรจะเปลี่ยนการ์ดจอมาสู่ยุคสมัยใหม่ได้แล้วค่ะ แล้วยิ่งเงินในกระเป๋าไม่ได้มากพอที่จะไปเล่นตัว GeForce RTX 3070 หรือตัวรองท็อปอย่าง GeForce RTX 3080 รุ่นนี้ก็ถือว่าเหมาะสำหรับเกมเมอร์สายกระเป๋าแบนแฟนทิ้งได้ไม่ยากเลยค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3060 Ti ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ราคาจับต้องได้เหมาะสำหรับคนที่มีทุนไม่มากนัก การ์ดจอตัวนี้กินไฟน้อยมาก ถ้าซื้อมาแล้วยังไงก็ต้องจัดการระบบไฟฟ้าให้ดีไม่งั้นอาจจะไม่เพียงพอ คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ต่ำลงมา แล้วใช้การ์ดจอรุ่นเก่าที่รันเกมในช่วง 2 - 3 ปีนี้แบบปรับสุดไม่ได้ มันก็เหมาะที่จะเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้นะ เป็นการ์ดจอที่รองรับในการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้สบาย ๆ แต่ระดับ 4K เฟรมเรตอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่คาดหวังหนัก ต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่าตอนนี้ทาง NVIDIA เตรียมเปิดตัวการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ของตระกูล “GeForce RTX 30 Series” ในปี 2021 เพิ่มเติมอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น GeForce RTX 3080 Ti, GeForce RTX 3070 Ti, GeForce RTX 3060 และ GeForce RTX 3050 ใครที่ลังเลว่าจะรอตัวใหม่ ๆ ดีหรือเปล่าอันนี้ก็มาดูกันอีกทีว่าเรื่องของราคา, ความคุ้มค่า และ สเปกภายในเมื่อใช้งานจริง ทดสอบจริงแล้วมันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ที่เกวลินทราบมาก็คือมันก็ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนมากเท่าไหร่ แต่มีการเพิ่มความเร็วนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ก็เพิ่ม Ram ความจุให้สูงขึ้นเป็นต้น ก็หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนการ์ดจอช่วงนี้ได้ไม่มากก็น้อยค่ะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าสวัสดีค่ะ!
17 Dec 2020
Nvidia เตรียมวางจำหน่าย GeForce RTX 3080 Ti ต้นปีหน้า!
GeForce RTX 3080 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสินค้าหากยากสำหรับชาว PC ไปแล้วในตอนนี้ ซึ่งจากที่เราได้มีโอกาสใช้งานการ์ดจอดังกล่าวมาแล้ว บอกได้คำเดียวว่าใครซื้อทันถือว่าโชคดีมากๆ ส่วนคนที่อยากได้เจ้า 3080 มากๆ แต่ไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหนดี ตอนนี้ผมคิดว่ารออีกหน่อยเราอาจจะได้สินค้าที่ดีกว่าในช่วงต้นปีหน้าครับ! จากรายงานล่าสุดของเว็บไซต์ hkepc ดูเหมือนว่า Nvidia มีแผนจะวางขาย GeForce RTX 3080 Ti เพื่อสู้กับ RX 6900 XT จากทาง AMD โดยเจ้า 3080 TI จะมาพร้อมกับ GDDR6X ถึง 20 GB และมี CUDA core  จำนวนเทียบเท่ากับ RTX 3090 ซึ่งหมายความว่ามันจะเป็นการ์ดจอที่แรงมากๆ ครับ ดังนั้นสำหรับใครที่ยังหาซื้อ 3080 ไม่ได้ ผมว่ารออีกสักหน่อยแล้วซื้อ 3080 Ti ไปเลยน่าอาจจะเป็นการดีกว่าครับ GeForce RTX 3080 Ti จะวางจำหน่ายในเดือน มกราคม 2021 จากรายงานของ hkepc ครับ Credit: VideocardZ
11 Nov 2020
รีวิวการ์ดจอ RTX 3080 FE พร้อมตอบคำถาม "คุ้มหรือไม่หากจะอัพเกรดในตอนนี้"
วางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้วกับการ์ดจอ RTX 3080 ซึ่งต้องบอกเลยว่าขายดีเกิดคาดจริงๆ ครับ เพราะสินค้าเล่นหมดไปจากตลาดโลกเลย ในเวลาเพียงแค่ 1 วันหลังวางจำหน่ายเท่านั้น จนน่าจะทำเอาเพื่อนๆ หลายคนสงสัยว่า "เจ้าการ์ดจอ RTX 3080 ตัวใหม่นี้มันดีขนาดนั้นเลยเหรอ? " อยู่ไม่มากก็น้อย ถือเป็นโชคดีของพวกเรา GameFever TH ที่ทาง Nvidia ได้ส่งการ์ดจอหายากตัวนี้มาให้เราได้ทดลองใช้งานกัน ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ โดยวันนี้ผมจะมารีวิวให้เพื่อนได้รู้กันว่าเจ้า RTX 3080 มีดียังไง และมันคุ้มหรือไม่ หากจะจ่ายเงินถึง 25,000 บาทให้ได้มา ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ คุณสมบัติทางเทคนิค RTX 3080 นั้นใช้สถาปัตยกรรมในการผลิตใหม่ที่มีชื่อว่า Ampere ซึ่งเป็นการผลิตแบบ 8 นาโนเมตร ต่างจาก Turing สถาปัตยกรรมก่อนหน้านี้ (RTX 20 Series) ที่เป็นการผลิตแบบ 12 นาโนเมตร จึงส่งผลให้จำนวนทรานซิสเตอร์ทั้งหมดของการ์ดจอซีรีส์นี้มีสูงถึง 28 พันล้านตัว มากกว่าเจนที่แล้วที่ถึง 10 พันล้านตัว โดยผมจะแปะคุณสมบัติเบื้องต้นที่ไม่ลึกเกินไปข้างล่างนี้ครับ ข้อมูลจำเพาะของ GPU Engine: NVIDIA CUDA® Core 8704 Boost Clock (GHz) 1.71 Base Clock (GHz) 1.44 ข้อมูลจำเพาะของหน่วยความจำ: กำหนดค่าหน่วยความจำมาตรฐาน 10 GB GDDR6X ความกว้างของอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 320 บิต เปรียบเทียบ ( กราฟิกที่ได้/FPS ) ในเรื่องของกราฟิก ผมเชื่อว่าเกมเมอร์บนเครื่อง PC หลายคนยังไงใช้การ์ดจอ GTX ซีรีส์ 9 ไม่ก็ 10 อยู่ และมีความตั้งใจจะเปลี่ยนมาใช้การ์ดจ่อซีรีส์ RTX กันในรุ่นนี้ ผมจึงจะขอทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของกราฟิกระหว่าง 1080Ti กับ 3080 ก่อนละกันครับ ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าความแตกต่างระหว่างการ์ดจอทั้ง 2 ตัว จะเป็นในเรื่องของ RTX On / Off มากกว่าครับ เนื่องจากจริงๆ 1080Ti นั้นเพียงพอที่จะปรับกราฟิกแบบเต็มแม็กในความละเอียดแบบ Full HD แล้วยังได้ 60 FPS อยู่แล้วในเกมเจนปัจจุบัน โดยประการแรกผมจะขอโชว์รูปเปรียบเทียบระหว่างเปิด RTX On / Off ให้เพื่อนๆ ดูก่อนครับว่าต่างขนาดไหนในเกมจริงๆ [caption id="attachment_69861" align="aligncenter" width="1024"] RTX off[/caption] [caption id="attachment_69862" align="aligncenter" width="1280"] RTX on[/caption] จะสังเกตได้ว่าแสงกับเงา ที่เราได้เห็นในเกมหากเปิด RTX On จะมีความสมจริงกว่าไม่เปิด (อย่างน้อยคือการสะท้อนของเงามีความถูกต้องมากกว่า) ดังนั้นสำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์แสงเงาที่ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนมาใช้ RTX 3080 เลย ผมคิดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ ครับ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยากเป็น RTX ถ้าคำนึงถึงความแตกต่างของ FPS ผมก็ยังคิดว่าคุ้มที่จะเปลี่ยนมาใช้อยู่ดี ซึ่งจะขอเปรียบเทียบให้ดูต่อไปข้างล่างนี้ครับ ในเรื่องของ FPS เชื่อว่าสำหรับเกมเมอร์หลายคนแล้ว เรื่องของ FPS เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คาดหวังจะได้เห็นความแตกต่าง ซึ่งมันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วที่ การ์ดจอรุ่นใหม่จะต้องแรงกว่ารุ่นเก่า แต่จะแรงกว่าถึงขนาดที่คุ้มค่ากับการเปลี่ยนรึเปล่า มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ โดยวันนี้ผมได้ทำกราฟเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้นมาให้ครับ ดูได้ข้างล่างนี้เลย ( ป.ล ผล FPS ที่ได้นี้ทดลองด้วย CPU: Intel i9 10900K ครับ ) [gallery ids="69589,69590,69591,69592,69593,69594,69595,69596,69597"] จะสังเกตได้ว่า 3080 นั้นจะสามารถทำ FPS ออกมาได้มากกว่า 2080Ti ที่เป็นตัวท็อปของรุ่นที่แล้วได้อยู่ที่ประมาณ 20-30 FPS เท่านั้น แต่ทำได้มากกว่า 1080Ti ถึงประมาณ 50-60 FPS เลยทีเดียว ผมจึงคิดว่าสำหรับใครที่ยังใช้ GTX ซีรีส์ 9 หรือ 10 อยู่ การเปลี่ยนมาใช้ RTX 30 ดูเป็นอะไรที่ไม่แย่นักครับ ประสบการณ์ส่วนตัว เบื้องต้น ผมต้องขอออกตัวก่อนว่า ตัวผมเองเป็นเกมเมอร์ที่เน้นเล่นเกมบนเครื่อง PC ครับ และก็มีงานอดิเรกเป็นการแต่งคอม แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมยังคงใช้การ์ดจอ GTX 1080Ti อยู่ เพราะคิดว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดจอตัวใหม่ในเมื่อมันยังเล่นเกมแบบปรับภาพสวยๆ ได้อยู่ แต่การที่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบกราฟิกจัดเต็ม + RTX On เป็นครั้งแรก บอกตรงๆ ว่าถึงแม้จะไม่ค่อยได้สังเกตความแตกต่างแบบจริงจัง แต่ผมกล้าพูดได้เลยว่าความสมจริงที่มากขึ้นมันอยู่ตรงหน้าเราจริงๆ ครับ! ความสมจริงที่ผมพูดถึงอยู่นี้คือเรื่องของ "ทิศทางเงา" เมื่อเราเปิด RTX On แล้วมุมตกกระทบ และมุมสะท้อนของเงา จะมีความสมจริงก็กว่าก่อนเปิดเป็นอย่าง ซึ่งเอาจริงๆ ตอนที่เล่นเกมเราไม่ค่อยได้สังเกตุกันหรอกครับ อารมณ์มันจะเป็นแบบว่า "รู้สึกได้ว่าภาพมันสมจริงขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามันสมจริงขึ้นยังไง" ประมาณนั้นครับ สรุปสั้นๆ ง่ายๆ คือ "ประทับใจมากครับ" [caption id="attachment_69601" align="aligncenter" width="1264"] เมื่อเปิด RTX แล้ว เงาที่ได้จะสมจริงกว่า สังเกตุที่ตาข้างซ้ายของ Captain Price[/caption] ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับการ์ดจอตัวนี้ ในการ์ดจอ RTX ซีรีส์ 30 นั้นมีระบบ และฟีเจอร์ใหม่ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาอยู่หลายตัว แต่ที่เด่นจริงๆ เห็นจะเป็น NVIDIA Reflex, G Sync 360 Hz และ DLSS 2.0  ซึ่งผมจะขอกล่าวถึงรายละเอียดต่อไปข้างล่างนี้ครับ NVIDIA Reflex นี้คือเทคโนโลยีใหม่ของ Nvidia ที่จะช่วยลดความหน่วงของการตอบสนองลงอีกหลายสิบเสี้ยววินาที โดยมันจะช่วยให้คำสั่งที่เรา กดเมาส์ หรือพิมพ์ถูกส่งเข้าไปในเกมได้เร็วมากขึ้น แต่เทคโนโลยีนี้จะสามารถใช้ได้กับจอที่มี G-Sync เท่านั้น ซึ่งระบบนี้สามารถใช้ได้กับการ์ดจอตั้งแต่รุ่นที่ 9 ขึ้นมา แต่จะส่งผลดีที่สุดหากใช้กับการ์ดจอซีรีส์ 30 ครับ ถ้าถามว่ามันจะทำให้คำสั่งของเราถูกทำในเกมเร็วขึ้นขนาดไหน ผมแนะนำให้ดูตัวอย่างได้เลยในวิดีโอข้างล่างนี้ครับ G Sync 360 Hz เทคโนโลยี NVIDIA Reflex เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แต่มันจะยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกถ้าหากใช้กับการเล่นเกมด้วยค่า Hz ที่สูงถึง 360 ในเจเนอเรชั่นใหม่นี้ทาง Nvidia ได้พัฒนาให้การ์ดจอรองรับค่า Hz ที่สูงขนาดนี้ได้แล้ว เมื่อเอามารวมกับเทคโนโลยีที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ มันจึงทำให้ลดความหน่วงของการตอบสนองลงมาได้ถึงขีดสุกอย่างแท้จริงครับ DLSS 2.0 อีกหนึ่งเทคโนโลยียอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับ RTX ซีรีส์ 30 คือ Deep Learning Super-Sampling 2.0 ครับ โดยเทคโนโลยีนี้คือการลบรอยหยักของโพลิกอนแบบใหม่ที่ใช้ความสามารถทางด้าน AI เข้ามาช่วยในการคำนวณ ซึ่งจะทำให้ GPU สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และดัน FPS ออกมาได้สูงกว่าเดิม แน่นอนว่าเทคโนโลยีตัวนี้มีมาตั้งแต่ RTX ซีรีส์ 20 แต่ตัว DLSS 2.0 นี้จะสามารถทำงานได้ดีกว่าเจนที่แล้วอยู่มาก ทั้งในเรื่องของภาพที่คมชัดขึ้น และ FPS ที่มากขึ้นครับ คุ้มหรือไม่ ? RTX 3080 นั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 24,000 - 25,000 ซึ่งถ้าจะถามว่า "มันคุ้มค่ากับการซื้อมาเปลี่ยน หรือไม่?" มันคงขึ้นอยู่กับว่าตอนนี้เพื่อนๆ ใช่การ์ดจอตัวไหนอยู่ครับ โดยผมจะขอให้วิเคราะห์ให้อ่านกันด้านล่างนี้เลยครับ สำหรับคนที่ใช้ RTX ซีรีส์ 20 อยู่ จากกราฟเปรียบเทียบ FPS ด้านบนแล้ว จะสังเกตได้ว่าสิ่งที่เราจะได้จากการ์ดจอรุ่นใหม่นี้คือ FPS เฉลี่ยประมาณ 20-30 เท่านั้น โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันไม่คุ้มขนาดนั้นครับ เพราะยังไงการ์ดจอที่เราใช้อยู่ ก็สามารถปรับกราฟิกสูงๆ ได้โดยที่ไม่ได้สูญเสีย FPS ไป ซึ่งถ้าหากจะเปลี่ยนจริงๆ คิดว่ารอจนกว่าเจนต่อไปจะออกน่าจะคุ้มค่ามากกว่าครับ สำหรับคนที่ใช้ GTX ซีรีส์ 10 ลงไป สำหรับคนที่ยังใช้การ์ดจอซีรีส์ตั้งแต่ GTX ซีรีส์ 10 ลงไปอยู่ ผมคิดว่านี้คือเวลาอันควรถ้าหากจะเปลี่ยนไปใช้ซีรีส์ RTX ครับ เนื่องจากเจ้าซีรีส์ 30 นี้มีประสิทธิภาพที่สูงมาก (แรงกว่า 1080Ti ประมาณ 70-90%) แถมยังมาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย ยิ่งในยุคที่เครื่องเล่นเกมคอนโซลกำลังจะเข้าสู่เจนใหม่แบบนี้ คิดว่าเกมที่กำลังจะออกหลังจากนี้คงมีการยกระดับของกราฟิก และภาพด้วยอย่างแน่นอน ดังนั้นคิดว่าใครที่ใช้ GTX ซีรีส์ 10 ลงไป ถ้าจะเปลี่ยนเป็น RTX 3080 ตอนนี้ก็เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่าอยู่ครับ สิ่งที่ควรระวัง สุดท้ายนี้ก่อนจะออกจากบ้าน หรือเปิดเน็ตขึ้นมากดสั่งของของกัน ผมอยากจะเตือนเพื่อนๆ ว่า ความแรงของ CPU กับ GPU ไม่ควรจะแตกต่างกันมากเกินไปครับ เนื่องจากว่าถ้าหาก CPU ของเพื่อนๆ แรงไม่พอ การซื้อ RTX 3080 มาใช้อาจทำให้เกิดอาการคอขวด จนส่งผลให้การ์ดจอไม่สามารถทำงานอย่างเต็มที่ได้ และอาจทำให้ FPS ที่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าหากถามว่าควรใช้ CPU ตั้งแต่รุ่นไหนเป็นต้นไปผมคิดว่าไม่ควรต่ำกว่า Ryzen 5 3600 หรือ Intel Core i5 10400 ครับ อีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้สนใจกันด้วยคือในเรื่องของขนาดการ์ดจอครับ RTX 3080 เพราะตอนนี้ทุกรุ่นที่มีขายอยู่ในตลาดนั้นมีความยาวเทียบเท่ากับการ์ดจอรุ่น 3 พัดลมเลยครับ เคสของใครที่ไม่สามารถใส่การ์ดจอรุ่น 3 พัดลมได้ อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเคสกันด้วยครับ ท้ายที่สุดคือในเรื่องของ Power Supply โดยบนเว็บไซต์ของ Nvidia เองได้บอกว่ารุ่นนี้กินไฟมากพอสมควร ผู้ใช้งานควรมีกำลังไฟของ PSU มากกว่า 750W ขึ้น ถ้าหากว่าใครยังใช้ 650W อยู่ เล่นๆ ไปแล้วคอมอาจจะ Restart เองได้ ซึ่งนับเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมากครับ [penci_review id="69178"]
08 Oct 2020
Nvidia เผย RTX 3080 และ 3090 อาจขาดตลาดจนกว่าจะหมดปี 2020!
ในขณะที่ผู้เล่นบนเครื่องคอนโซล กำลังพบกับปัญหาที่ไม่สามารถพรีออเดอร์เครื่อง PS5 กับ Xbox Series X ได้เนื่องจากความต้องการที่มีมากเกินไป ผู้เล่นทางฝั่ง PC เองก็กำลังเจอกับสถานการณ์คล้ายๆ กัน เนื่องจาก RTX 3080 และ 3090 เองก็กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากจนไม่มีของอยู่ในตลาดเลย โดยล่าสุดจากคำพูดของ CEO บริษัท Nvidia เหมือนว่าเราคงยังไม่เห็นการ์ดจอทั้ง 2 ตัววางขายในตลาดไปอีกนานเลยครับ! Jensen Huang ได้พูดว่า "ผมเชื่อว่าความต้องการของตลาด จะมีมากกว่าสินค้าที่ผลิตได้ ไปจนกว่าจะหมดปี 2020 เลย เพราะอย่าลืมว่าช่วงวันหยุดยาวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้นผมเชื่อว่าความต้องการของตลาด จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2020" ซึ่งคุณ Jensen ยังยืนยันอีกด้วยว่า "ไม่ใช่ว่าเราผลิตไม่เพียงพอ แต่ความต้องการใน 3080 กับ 3090 มันมีมากกว่าที่คิดไว้มากจริงๆ " ดังนั้นสำหรับใครที่อยากได้การ์ดจอตัวใหม่นี้ ก็คงต้องอดใจรอกันไปยาวๆ ครับ ต้องรอดูว่าปี 2021 จะเริ่มมีสินค้าให้เราซื้อแล้วหรือไม่ต่อไป RTX 3080 และ 3090 วางจำหน่ายแล้ววันนี้! Credit: GamingBolt
06 Oct 2020
Galax ยืนยัน!! "จะมีการวางขาย RTX 3080 รุ่นแรม 20 GB ในอนาคต"
RTX 3080 ได้กลายเป็นสินค้าหายาก ซึ่งเป็นที่งต้องการของเหล่าผู้เล่นบนเครื่อง PC แล้วในตอนนี้ ความต้องการที่มากเหนือจินตนาการทำเอาสินค้าขาดตลาดในทุกประเทศทั่วโลกเลยในตอนนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่กำลังใจจดใจจ่อรอให้มีการเติมสินค้าอยู่ในตอนนี้ การรอเพิ่มอีกสักนิดอาจจะเป็นการดีกว่าครับ! ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือออกมาว่า RTX 3080 อาจมีรุ่นแรม 12 GB วางจำหน่ายตามมาในอนาคตด้วย ซึ่งวันนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงครับ เพราะ RTX 3080 อีกตัวที่กำลังจะมา ไม่ได้มีแรมแค่ 12 GB แต่เป็น 20 GB เลย! เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากทาง Galax เองในงานประชุมที่จีน ซึ่งได้มีการโชว์รูปบนสไลด์ชัดเจนว่าจะมีการวางขาย RTX 3080 รุ่นแรม 20 GB ในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการ์ดจอรหัสปริศนาอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ชื่อว่า PG142 SKU 0 ซึ่งแรงกว่า RTX 3070 ถูกเผยออกมาในรูปดังกล่าวดวย โดยเบื่องต้นคาดว่าน่าจะเป็น RTX 3070 ที่เป็นรุ่น TI ไม่ก็ Super ครับ อย่างไรก็ตามไม่มีการประกาศว่า ทั้ง 2 โมเดลจะวางจำหน่ายในวันไหน แต่ทาง VideoCardz ได้บอกว่า "ช่วงเวลาที่ทั้ง 2 โมเดลวางจำหน่าย จะขึ้นอยู่กับว่า ซีรีส์ Radeon RX 6000 ของทาง AMD จะวางจำหน่ายในช่วงไหน" ครับ RTX 3080 วางจำหน่ายแล้วตอนนี้ และ RTX 3090 จะเริ่มวางจำหน่ายวันนี้ตอน 20.00 ตามเวลาบ้านเราครับ Credit: VideoCardz
24 Sep 2020
Nvidia ยอมรับ "ไม่คิดว่า RTX 3080 จะเป็นที่ต้องการของตลาดมากขนาดนี้"!
เรียกได้ว่าขายดีเป็นเททิ้งจริงๆ ครับ กับการ์ดจอ RTX 3080 ที่เรียกได้ว่า เพียงแค่ 10 นาทีหลังจากวางขาย สินค้าก็หมดลงทันที่จากทุกหน้าร้านค้า ส่งผลให้ของขาดตลาดอย่างรวดเร็ว จากความต้องการที่สูงมากๆ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก จนส่งผลให้ราคาของ RTX 3080 บนเว็บไซต์ขายของออนไลน์ต่างๆ สูงขึ้นเกือบ 10 เท่าในตอนนี้! ล่าสุดทาง Nvidia ก็ออกมายอมรับว่าพวกเขาดูถูกความต้องการของตลาดมากเกินไป และยังยอมรับอีกด้วยว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีสินค้ามากพอจะตอบสนองต่อความต้องการซื้อจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกได้ อย่างไรก็ตามทาง Nvidia ได้สัญญาว่าพวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ในเร็ววันครับ RTX 3080 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ Finally! RTX 3080 back in stock at Amazon!https://t.co/Bg8zHRKEuZ Now just to get that arm and leg sold... pic.twitter.com/mCxZ6tQTCl — Tech Deals ?? (@TechDeals_16) September 21, 2020 Credit: PCGameN
23 Sep 2020
ลือ! การ์ดจอ RTX 3080 อาจมีรุ่นแรม 12 GB ออกตามมาในอนาคต!
ออกมาว่าจำหน่ายแล้วหลังจากเปิดตัวโชว์ความสุดยอดของเจนเนอร์เรชั่นกับการ์ดต่อ RTX 3080 โดยจากการเปรียบเทียบกับการ์ดจอรุ่นก่อนซีรีส์นี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการความแรงแบบจัดเต็ม ก็รอพบกับ RTX 3090 ได้เลยปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ตามล่าสุดมีข่าวลือว่า Nvidia อาจออกการ์ดจอที่มีความแรงอยู่ระหว่าง 3080 และ 3090 ออกมาก็เป็นได้ครับ ได้มีการปล่อยรูปภาพภายในของการ์ดจอ 3080 ออกมาบนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งพบได้ว่ามีการเว้นว่างช่องใส่แรมของตัวการ์ดจอไว้สองช่อง โดยการเว้นว่างดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งกับการ์ดจอของ MSI, Galax และ INNO3D ทำให้คิดได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะมีการ์ดวางจำหน่าย RTX 3080 รุ่นแรม 12 GB ออกมาในภายหลังครับ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ต้องรอดูต่อไปว่าทาง Nvidia จะมีการออกการ์ดจอรุ่นดังกล่าวจริงๆ หรือไม่ครับ
20 Sep 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "RTX 3080"
RTX 3070 Ti, RTX 3080 อาจวางขายรุ่น Refresh ที่อัปเกรดแรมมากขึ้นในช่วง 3 เดือนนี้!
คิดว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเกมเมอร์หลายๆ คน เมื่อมีข่าวลือว่า Nvidia เตรียมผลิตการ์ดจอ 3 รุ่น 2060 3070Ti และ 3080 ชุด Refresh ที่เพิ่มความจุของแรมให้มากขึ้นให้เพียงพอต่อการใช้งาน และไม่น้อยหน้าการ์ดจอรุ่นอื่นๆ ที่มีในตลาด พร้อมทั้งสามารถเล่นเกมในยุคปัจจุบันซึ่งมีการใช้แรมของการ์ดจอมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย 2060 มีกำหนดจะมาในช่วงต้นเดือน ธันวาคม นี้ ส่วนรหัส 30 จะมาช่วงต้นปีหน้า@hongxing2020 ผู้ปล่อยข่าวเชื่อว่า 2060 ใหม่จะมาพร้อมความจุแรม 12GB ส่วน 3070Ti จะให้เยอะถึง 16GB ในสินค้าชุดใหม่ สำหรับ 3080 จะเพิ่มจากเดิมอีกเล็กน้อยเป็น 12GB เทียบเท่ากับพี่ใหญ่ 3080Ti เอาจริงๆ เป็นเรื่องแปลกที่ Nvidia ตัดสินใจจะปล่อยสินค้าเวอร์ชันอัปเกรดจากปี 2019 ออกมาในช่วงปลายปี 2021 แต่เมื่อมองไปที่สถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน มันอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยคงไม่พ้นเรื่องการลดแรงขุด ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่ารุ่นใหม่เองก็จะลดแรงขุดไม่ต่างจากหลายๆ รุ่นที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ แต่ประเด็นสำคัญจริงๆ คงเป็นเรื่องว่าจะมีของขายในตลาดรึเปล่า? มากกว่า เนื่องจากความต้องการการ์ดจอในตลาดประเทศไทยเรียกได้ว่าสูงมากจริงๆ คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีพ่อค้าทำการซื้อการ์ดบางส่วนไปเก็งกําไร ยังไงต้องรอดูกันต่อไป11.1 update:1. 2060 12G —12/7 on-shelf。2.3070Ti 16G、3080/12G —12/17 PPT發佈, 2022/1/11 正式開賣。— hongxing2020 (@hongxing2020) November 1, 2021 Credit : Tom's Hardware
02 Nov 2021
Asus จดสิทธิบัตร RTX 3070 Noctua บอกใบ้ถึงการร่วมมือกันระหว่างสองแบรนด์
Asus เป็นหนึ่งในผู้ผลิตการ์ดจอที่มีชื่อเสียง สินค้ามีคุณภาพสูงโดยเฉพาะในเรื่องความแรงของชิป และการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ แต่หลังจากนี้เราอาจได้เห็นการ์ดจอจากทาง Asus ในรุ่นที่สามารถระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เมื่อล่าสุดเหมือนว่าจะมีการจับมือกับ Noctua เพื่อออก RTX 3070 รุ่นใหม่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Noctua พวกเขาคือแบรนด์ที่ทำอุปกรณ์ระบายความร้อนภายใน PC ที่ยอดเยี่ยมเจ้าหนึ่งของโลก ถ้าหากว่าพูดถึงพัดลมเคสที่มีรอบสูงๆ หรือ Heatsink ลมอันดับต้นๆ ของโลก หนึ่งในนั้นจะต้องมีสินค้าของ Noctua อยู่ด้วยอย่างแน่นอน มันจึงทำให้การร่วมงานครั้งนี้หมายถึงการ์ดจอแรงดีกรีระดับ Asus ที่ระบายความร้อนได้ดีระดับ Noctuaแต่คำถามที่น่าสนใจคือทำไมถึงเป็น RTX 3070 เนื่องจากการระบายความร้อนของ Asus ในการ์ดจอซีรีส์ 30 ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ อยู่แล้ว มันดูไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องไปจับมือกับแบรนด์เชี่ยวชาญการระบายความร้อนในครั้งนี้ ถ้าหากว่ารุ่นที่ทำเป็น 3080Ti หรือ 3090 ก็ยังพอเข้าใจได้ ในจุดนี้คิดว่าต้องรอดูข้อมูลกันต่อไปCredit: Tom's Hardware 
05 Aug 2021
MSI ฉลองครบรอบ 35 ปี เตรียมเปิดตัวการ์ดจอรุ่นพิเศษวันพรุ่งนี้ คาดเป็น 3080 Ti หรือ 3090 รุ่น SUPRIM Limited
1 มิถุนายน 2021 ถือเป็นวันครบรอบ 35 ปีของบริษัท MSI ซึ่งทางบริษัทมีแผนจะเปิดตัวการ์ด RTX 30 Series โมเดลพิเศษเพื่อฉลองในวันครบรอบนี้ โดยคาดว่าอาจเป็นการ์ดรุ่น RTX 3080 Ti ซึ่งจะเปิดตัววันนี้ หรือไม่ก็ RTX 3090 ตัวท็อป โดยโมเดลจะใช้รุ่น SUPRIM เป็นฐานมีภาพของการ์ดจอรุ่นพิเศษนี้หลุดออกมาแล้ว โดย SUPRIM รุ่นครับรอบนี้จะมีเลข 35 อยู่ตรงกลางของพัดลม และเปลี่ยนสีของตัวการ์ดเป็นสีสีดำ ซึ่งภายในไลฟ์สตรีมวันพรุ่งนี้นอกจากการ์ดจอใหม่แล้วทางบริษัทยังมีแผนจะโชว์ Notebook รุ่นใหม่ด้วยไลฟ์สตรีมจะเริ่มประมาณ 14.00 ตามเวลาบ้านเราวันพรุ่งนี้ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถรอดูกันได้เลยผ่าน Youtube หรือ Twitch Credit : https://videocardz.com/newz/msi-to-launch-geforce-rtx-30-suprim-35th-anniversary-limited-edition-graphics-card
31 May 2021
Gigabyte ส่งรายชื่อ RTX 3080 Ti กว่า 12 รุ่นให้กับ EEC แล้ว คาดเตรียมวางขายอย่างเป็นทางการ พฤษภาคม
หลังจากมีข่าวออกมาว่า Nvidia เลื่อนวันขาย RTX 3080 TI ออกไปเป็นเดือน พฤษภาคม แทน เหล่า PC เกมเมอร์ก็ดูจะกระหายข้อมูลใหม่ๆ ของการ์ดรุ่นนี้กันพอสมควร ซึ่งล่าสุดทาง Gigabyte ได้ส่งรายชื่อการ์ดทั้ง 12 รุ่นที่เป็น รหัส RTX 3080 Ti ให้กับ Eurasian Economic Commission (EEC) แล้ว คาดว่าจะไม่เลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีกการ์ด RTX 3080 Ti จะมาพร้อมกับสเปค NVIDIA CUDA Core 10240 ที่แรงเกือบเทียบเท่ากับ RTX 3090 ในแง่ของความสามารถประมวลผล แต่ตัวการ์ดมาด้วย RAM ที่น้อยกว่าถึง 8 GB ทำให้การเอาไปเล่นแบบ 8K น่าจะเป็นไปได้ยากสำหรับรุ่นนี้ ส่วนเรื่องของราคายังไม่มีความเคลื่อนไหวจากทาง Nvidia แต่คิดว่าน่าจะเปิดตัวที่ 35,000 โดนประมาณครับอย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ราคาการ์ดจอบ้านเราในตอนนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถหาซื้อการ์ดรุ่นนี้ได้รึเปล่าช่วงเดือนแรกที่วางจำหน่าย ต้องไปรอลุ้นพร้อมกันอีกทีครับCredit : https://videocardz.com/newz/gigabyte-submits-twelve-geforce-rtx-3080-ti-12gb-graphics-cards-to-eec
30 Mar 2021
RTX 3070 ถูก Modder อัพเกรด RAM เป็น 16 GB แล้วใช้งานได้!
วางจำหน่ายกันออกมาหลายรุ่นแล้วสำหรับการ์ดจอ RTX 30 Series จากทาง Nvidia (โดยปัจจุบันขาดตลาดจนหาซื้อไม่ได้ไปแล้ว) ซึ่งหลังจากที่ได้ดูใส่ในของการ์ดบางรุ่นแล้ว อาจสังเกตได้ว่า RAM ที่ใส่มาด้วยยังไม่ถือว่า Maximum บ้างก็เหลือไว้ 2 ช่อง บ้างก็เหลือไว้ 1 ช่อง ทำให้หลายคนคิดว่า "จะต้องมีการออกรุ่น Ti มาให้ด้วยอย่างแน่นอน" ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วโดยการเปิดตัวรุ่น 3080 Ti ที่มี RAM 12 GB น่าเสียดายที่สำหรับ RTX 3070 อาจไม่ใช่แบบนั้นเนื่องจากตัวการ์ดส่วนใหญ่มีการใส่ RAM มาแบบ Maximum แล้ว ดังนั้นคิดว่าคงไม่มีการออกการ์ด RTX 3070 Ti ในอนาคต ซึ่งเอาจริงๆ RAM 8 GB ของการ์ดรุ่นนี้ถือว่าน้อยไปเมื่อเทียบกับความสามารถของหัวประมวลผล Modder สุดโหดคนหนึ่งจึงได้ทำการอัพเกรด RAM ของการ์ดใบนี้ด้วยตัวเอง!!!! โดยการอัพเกรด RAM ของเขาไม่ใช้การใส่เพิ่มเข้าไป แต่เป็นการเอาตัว RAM ตัวเก่าบนการ์ดออก แล้วใส่ตั่วที่มีความจุช่องละ 2 GB เข้าไปแทนที่ (ปกติ RAM การ์ดจอ 1 ช่องจะเท่ากับ 1 GB) ที่สำคัญคือหลังทำเสร็จแล้ว การ์ดดังกล่าวสามารถทำงานได้เป็นปกติ แถมยังรัน Benchmark ได้ด้วย!! Credit: https://www.pcgamer.com/modder-gives-rtx-3070-a-16gb-upgrade-before-nvidia-has-the-chance/
10 Mar 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
จัดอันดับการ์ดจอ PC ที่คุ้มค่ากับการซื้อมาเล่นเกมมากที่สุดในตอนนี้!
ด้วยความที่ตอนนี้วงการเกมกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ที่ภาพ / กราฟิก ถูกยกระดับให้มีความสวยงามสมจริงมากขึ้น (ยุคนี้ต้อง 4K / 60 FPS) เชื่อว่าผู้เล่นบนเครื่อง PC ก็กำลังสนใจที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดจ่อซีรีส์ใหม่กันอยู่ไม่มากก็น้อย ส่งผลให้ในปัจจุบันการแข่งขันในตลาดของ Hardware เป็นไปอย่างดุเดือดมากๆ ระหว่าง AMD กับ Nvidia  แม้ว่าการ์ดจอของทั้ง 2 ค่ายจะถือว่าแรงมากๆ และมีความแตกต่างกันไม่มาก แต่เชื่อว่าเหล่า PC เกมเมอร์ก็ยังอยากได้การ์ดจอดีที่สุด ในราคาดีที่สุดสำหรับตัวเองอยู่ดี ส่งผลให้หลายคนยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อการ์ดจอรุ่นไหน ของค่ายไหนถึงจะเรียกได้ว่าดีที่สุด ทางเรา GameFever Th จึงได้จัดอันดับรายชื่อการ์ดจอที่คุ้มค่าจะซื้อมาเล่นเกมที่สุดมาให้ในบทความนี้ครับ ก่อนที่จะไปเริ่มดูกันว่าการ์ดจอตัวไหนบ้าง ขอออกตัวก่อนว่าในบทความนี้เราไม่ได้พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำเอาเรื่องของราคา รวมถึงความคุ้มค่าที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนนด้วย แน่นอนว่าจะมีการเขียนบอกข้อดี รวมถึงเหตุผลของการ์ดจอแต่ละอันดับด้วย ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ! อันดับ 1 Nvidia GeForce RTX 3080 CUDA cores: 8,704 Base clock: 1,440MHz Boost clock: 1,710MHz TFLOPs: 29.76 Memory: 10GB GDDR6X Memory clock: 19 GT/s Memory bandwidth: 760GB/s 3080 คือการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS โดยปรับ Setting สูงๆ ได้ แถมยังมาในราคาเพียงแค่ 25,000 - 35,000 เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่การ์ดตัวนี้เป็นรุ่นที่น่าซื้อมากที่สุดแล้วในตอนนี้ ยิ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับหัวคำนวณ Ray Tracing ที่ดีกว่าเจนแรกมากด้วยแล้ว ยิ่งควรค่าแก่การหามาเปลี่ยนมากขึ้นไปอีกครับ น่าเสียดายที่ด้วยความยอดเยี่ยมของตัวการ์ด เลยทำให้หาซื้อได้ยากมากๆ เช่นกัน และด้วยความที่หาซื้อยาก เลยทำให้ราคาของตัวการ์ดเพิ่มสูงขึ้นหลายพันบาทเลยในตอนนี้ นอกจากนี้ตัวการ์ด RTX 3080 ยังกินไฟค่อนข้างมาก การมี Power Supply กำลังไฟ 850W จึงเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดที่เราอาจต้องคำนึงหากจะหาซื้อการ์ดตัวนี้มาใช้ครับ อันดับ 2 AMD Radeon RX 6800 XT RDNA cores: 4,608 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 20.74 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s ถ้าเอาแค่เรื่องความแรงของตัวประมวลผลของการ์ดเพียงอย่างเดียว RX 6800 XT ถือได้ว่าเป็นการ์ดที่แรงกว่า RTX 3080 ในราคาที่ถูกกว่าประมาณ 1,500 - 5,000 บาทครับ (ราคาอยู่แถวๆ 23,000 - 32,500 บาท) แถมยังเป็นการ์ดรุ่นที่มี Memory มากกว่าถึง 16 GB ด้วย ส่งผลให้การ์ดตัวนี้สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ด้วย Setting สูงๆ ได้แบบสบายๆ เช่นเดียวกัน น่าเสียดายที่เมื่อพูดถึงประสบการณ์เล่นเกมแล้ว เจ้า RX 6800 XT จะสามารถดัน FPS ได้น้อยกว่า RTX 3080 เมื่อเปิดใช้งาน Ray-Tracing นอกจากนี้การ์ดทางฝั่งของ Nvidia ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันที่ชื่อว่า DLSS 2.0 เพื่อเพิ่ม FPS ที่ได้ รวมถึงคุณภาพของกราฟิกได้ด้วย ส่งผลให้การยอมจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย เพื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่ามากกว่าครับ อันดับ 3 Nvidia GeForce RTX 3060Ti CUDA cores: 4,864 Base clock: 1,410MHz  Boost clock: 1,665MHz TFLOPs: 16.20 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s น้องเล็กสุดของตระกูล RTX 30 Series ตัวการ์ดมาพร้อมกับประสิทธิภาพระดับเดียวกับ RTX 2080 Super แต่มีหัว Ray-Tracing ที่ดีกว่า และราคาเพียงแค่ 13,000 - 19,000 บาทเท่านั้น ด้วยประสิทธิภาพที่ได้ กับราคาที่ต้องจ่าย เลยทำให้เจ้าการ์ดน้องเล็กใบนี้ได้อันดับ 3 ไปในลิสต์นี้ครับ แม้จะไม่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ได้ใน Setting สูงๆ เหมือนกับพี่ๆ ในซีรีส์เดียวกัน แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบมากมายในการประกอบ PC หนึ่งเครื่องแล้วละก็ RTX 3060Ti คงเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกดีที่สุดในตอนนี้ครับ แต่น่าเสียดายที่อาจหาของได้ยากสักหน่อยช่วงนี้ อันดับ 4 Nvidia GeForce RTX 3070 CUDA cores: 5,888 Base clock: 1,500MHz Boost clock: 1,725MHz  TFLOPs: 20.37 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s พี่คนรองใน RTX 30 Series ที่มาพร้อมกับแกนประมวลผล RTX แบบใหม่ซึ่งดีกว่าเช่นกัน แต่ด้วยความที่ราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 19,900 - 28,900 ซึ่งห่างไกลจาก RX 6800 XT ไม่มาก เลยทำให้เจ้า RTX 3070 ได้อันดับที่ 4 ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามถ้าหากไม่ได้ต้องการจะเล่นเกมด้วยความละเอียด 2K / 60 FPS รวมถึงเปิด Ray-Tracing ไปด้วย RTX 3070 ก็ยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีมากๆ ถ้าหากว่าเพื่อนๆ เป็นสาวกค่ายเขียว และต้องการการ์ดจอที่แรงพอสมควรในราคาช่วง 20 กลางๆ เจ้า 3070 คือตัวเลือกที่ดีมากครับ อันดับ 5 AMD Radeon RX 6900 XT RDNA cores: 5,120 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 23.04 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s คงสามารถพูดได้ว่านี้คือการ์ดที่แรงมากที่สุดของทางฝั่งค่ายแดงแล้วในตอนนี้ ด้วยความที่แรงเกือบเทียบเท่ากับ RTX 3090 ซึ่งแรงที่สุดของทางฝั่งค่ายเขียวแต่มีราคาที่ถูกกว่าถึง หลายหมื่นบาท (ราคาอยู่ที่ประมาณ 32,000 - 42,000 บาท) จึงทำให้ การ์ดใบนี้อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายชื่อครับ จริงอยู่ว่าการ์ดตัวนี้มีความแรงที่สูงมากๆ แถมยังมีราคาเริ่มต้นไม่ไกลจากราคาสูงสุดของ RTX 3080 มากนัก แต่ถ้าหากเพื่อนๆ จะซื้อมาเพื่อเล่นเกมระดับ 4K / 60 FPS แล้ว ด้วยความที่ทาง Nvidia มีหัว Ray-Tracing กับเทคโนโลยี DLSS อยู่ จึงยังทำให้ RTX 3080 มีภาษีที่ดีมากกว่าหากจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมครับ อันดับ 6 Nvidia GeForce RTX 3090 CUDA cores: 10,496 Base clock: 1,395MHz Boost clock: 1,695MHz TFLOPs: 35.68 Memory: 24GB GDDR6X Memory clock: 19.5 GT/s Memory bandwidth: 935.8GB/s พี่ใหญ่ รวมถึงเป็นการ์ดจอรุ่นที่แรงสุดของโลกในตอนนี้ สามารถเล่นเกมได้ถึงความละเอียด 8K แต่ด้วยราคาที่แพงมากๆ (ประมาณ 55,000 - 65,000 บาท) บวกกับประสิทธิภาพที่แทบไม่ต่างจาก RTX 3080 เลยเมื่อเล่นเกมที่ความละเอียด 4K จึงทำให้การ์ดรุ่นนี้ดูไม่คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ครับ แน่นอนว่าถ้าอยากไปให้สุดในเรื่องของความแรงกับการเล่นเกมบนจอ 8K ยังไงเพื่อนๆ ก็จำเป็นต้องซื้อ RTX 3090 ครับ แต่จอที่มีความละเอียดสูงถึง 8K ก็เรียกได้ว่ามีราคาที่แพงมากๆ เช่นกัน ไหนจะต้องจ่ายเงินซื้อ CPU แรงๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการคอขวดอีก ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบประกอบ PC ถึงหลักแสน การ์ดจอตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะหามาใช้งานเลยครับ แม้ว่าบทความนี้ของเราจะพูดถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่าย แต่สุดท้ายแล้วเพื่อนๆ จะเลือกซื้อการ์ดจอตัวไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาไปใช้เล่นเกมแบบไหน หรือทำอะไรบ้างครับ แต่ในกรณีที่มีงบเพียงแค่ 50,000 บาท แล้วอยากได้การ์ดจอที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากที่สุด ก็หวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยเพื่อนๆ ได้ ถ้าหากมีคำถามอะไรก็สามารถถามในคอมเม้นต์ของโพสต์นี้ได้เลย ถ้าตัวผมสามารถช่วยได้ ก็ยินดีจะช่วยไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ครับ!
07 Jan 2021
รู้ก่อนซื้อ! ถ้าต้องเปลี่ยนการ์ดจอใหม่ตอนนี้เป็น NVIDIA GeForce RTX 30 Series จะเลือกรุ่นไหนดี
ปีนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีในการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่เห็นเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ก็เปิดตัวไปแล้ว ( แต่เมืองไทยยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายก็ตาม ) นอกจากนี้เกมเมอร์ฝั่ง PC ก็คงได้เห็นการเปิดตัวการ์ดจอ [GPU] ของทั้งค่ายเขียว NVIDIA และ ค่ายแดง AMD ในซีรีส์ใหม่กันไปแล้วเรียกว่ากระแสตอบรับดีทั้งสองค่ายเลย แต่เหมือนปีนี้จะหนักไปทางค่ายเขียว NVIDIA ซะมากกว่า เพราะดูเหมือนว่า “GeForce RTX 30 Series” ที่เวลานี้ได้วางจำหน่ายออกมาแล้วทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันไล่มาตั้งแต่ตัวท็อป GeForce RTX 3090, GeForce RTX 3080, GeForce RTX 3070 และ GeForce RTX 3060 Ti นี่ยังไม่นับรวมรุ่นอื่น ๆ ของซีรีส์นี้ที่มีแผนจะเปิดตัวในปีหน้าด้วย วันนี้เกวลินเลยจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักการ์ดจอของแต่ละรุ่นว่าอันไหนเหมาะกับเพื่อน ๆ กันบ้างค่ะ   GeForce RTX 3090 เป็นรุ่นท็อปสุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้สำหรับ “GeForce RTX 3090” การ์ดจอรุ่นนี้ทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่ามันคือนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนามาจากการ์ดจอรุ่น GeForce GTX TITAN เพราะว่าหลังจากนี้ไปการ์ดจอตระกูล TITAN ทาง NVIDIA ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกพัฒนาแล้วหันมาใช้เป็นเลขรหัสแทน โดยพวกเขาได้เครมเอาไว้ว่าประสิทธิภาพของการ์ดจอตัวนี้สามารถเล่นเกมในความละเอียด 8K ได้อย่างสบาย ๆ ด้วย Ampere สถาปัตยกรรม RTX รุ่นที่ 2 ที่ทำให้เมื่อผู้เล่นเปิดใช้งาน Ray Tracing และ AI การทำงานจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากผลการทดสอบแสดงให้เห็นแล้วว่า “เมื่อผู้ใช้งานเปิด DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตจะสูงขึ้นมากกว่าตอนปิดการใช้งานเสียอีก!” ด้วยความที่มันเป็นการ์ดจอตัวท็อปสุดของ “GeForce RTX 30 Series” จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามมากมายต่อเกมเมอร์ว่า “เราควรซื้อการ์ดจอตัวนี้ใช้งานเลยดีไหม!?” เพราะราคาก็เริ่มต้นอยู่ที่ 52,000 บาทขึ้นไป ( แล้วแต่แบรนด์ แต่รุ่นกันด้วย ) ซึ่งจัดอยู่ในราคาที่สูงมาก เราก็ต้องมาดูกันก่อนว่าถ้าเราซื้อการ์ดจอ GeForce RTX 3090 คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าเอามาแค่เล่นเกมกับสตรีมถ่ายทอดสดอย่างเดียว บอกเลยว่ามันดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ ตัวการ์ดรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดกินพื้นที่ในการติดตั้งไปมากกว่า 3 ช่อง ถ้าเคสคอมพิวเตอร์ของเราเป็นขนาดเล็กก็ต้องมีการจัดวางระบบภายในใหม่ทั้งหมดเพื่อให้การระบายความร้อนได้ดีขึ้น แล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือการ์ดจอ GeForce RTX 3090 กินไฟสูงใช้ได้เลยค่ะ ถ้า Power Supply ของเรามีกำลังวัตต์น้อยจนเกินไปก็ไม่สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้ได้นะคะ ซึ่งทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ขั้นต่ำจะต้องอยู่ที่ประมาณ 750 วัตต์ขึ้นไป อย่างไรก็ตามมันก็อยู่กับว่าอุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ว่าเราใช้ CPU ตัวไหนแล้วมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเกี่ยวกับไฟฟ้าบ้าง เพราะบางครั้งกำลังวัตต์ที่แนะนำไปอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ใช้งานก็จะต้องควักเงินเพื่อเปลี่ยน Power Supply ให้สูงขึ้นแล้วก็เผื่อเอาไว้ด้วย แล้วถ้าใช้ Power Supply รุ่นเก่าอาจจะต้องเปลี่ยนเพื่อจัดการจ่ายไฟอย่างเหมาะสม เพราะการ์ดจอรุ่นใหม่นี้ต้องใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมอยู่ที่ PCle 8 Pin ถึง 2 ตัวด้วยกัน “ใครสเปกคอมพิวเตอร์ภายในสูง ๆ จัดเยอะ ๆ ไว้ก็ดีนะ” แล้วถ้าเพื่อน ๆ ยังคงเล่นเกมบนหน้าจอที่มีความละเอียดเพียงแค่ 1080p ( หรือต่ำกว่านั้น ) การ์ดจอตัวนี้ไม่เหมาะอย่างรุนแรงค่ะ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อให้เล่นในความละเอียด 1440p ไปจนถึง 4K มากกว่าค่ะ ซึ่งทาง NVIDIA เครมว่ามันสามารถรันถึงความละเอียด 8K ได้เลยนะคะ แต่จากผลทดสอบของสื่อต่างประเทศและผู้ที่ใช้งานจริงพบว่า GeForce RTX 3090 สามารถที่จะรันเกมที่ใช้กราฟฟิกสูงพร้อมเปิดใช้งาน Ray Tracing, DLSS หรือ รันเกมบน DirectX 12 ในความละเอียด 4K แล้วเฟรมเรตทะลุ 60fps ได้อย่างสบาย ๆ อย่างไรก็ตามการ์ดจอตัวนี้นอกจากจะใช้เล่นเกมที่มีรายละเอียดสูงได้แล้ว สิ่งหนึ่งก็คือใครที่ทำงานสายออกแบบกราฟฟิก หรือ ตัดต่อวีดีโอก็ทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3090 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? ราคาที่สูงเกินไป เป็นการ์ดจอที่ขนาดใหญ่, น้ำหนักเยอะ และ ใช้พื้นที่เยอะ ถ้าผู้ใช้ซื้อมาแล้วใช้งานไม่คุ้มค่าอาจจะรู้สึกเสียดายเงินก็เป็นได้ ผู้ใช้จะต้องปัจจัยส่วนอื่น ๆ ภายในคอมพิวเตอร์ของเราด้วย เพราะการ์ดจอกินไฟสูงมาก อาจจะต้องมีการเพิ่มงบเพื่อให้สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้เต็มประสิทธิภาพ การ์ดออกแบบมาเพื่อให้เราใช้ในการทำงานด้านกราฟฟิกและเล่นเกมในความละเอียด 4K หรือมากกว่า GeForce RTX 3080 ในเมื่อการ์ดจอตัวท็อปอย่าง GeForce RTX 3090 มีราคาที่สูงเกินไปทาง NVIDIA ก็มีการออกแบบการ์ดจอรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “GeForce RTX 3080” มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 31,000 บาทขึ้นไป ( เช่นเดียวกันค่ะ แล้วแต่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่การ์ดจอตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมโดยเฉพาะเลยค่ะ ราคานี้อาจจะสูงไปสำหรับเกมเมอร์บางคน แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมกราฟฟิกสวย ๆ ในความละเอียดสูง ๆ แล้วมีสเปกคอมพิวเตอร์ที่สูงอยู่แล้วพร้อมกับกําลังทรัพย์มันเป็นหนึ่งในการ์ดจอที่ขอแนะนำเลยค่ะ ขนาดการ์ดจอของ GeForce RTX 3080 จะเล็กกว่า GeForce RTX 3090 นิดหน่อยค่ะ โดยจะกินพื้นที่ประมาณ 2 ช่องเพื่อใช้ในการติดตั้งเช่นเดียวกันค่ะ การเคลียร์พื้นที่ของเคสก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันเพื่อที่จะไม่ให้เคสมีความแออัดเกินไปจนทำให้เกิดความร้อนภายในเคส แต่ถ้าใครที่เคสขนาดใหญ่อยู่แล้วมีพัดลมระบายอากาศที่ดีก็ถือว่ารอดตัวไปค่ะ ในเรื่องของ Power Supply ก็คล้าย ๆ กับการ์ดจอตัวท็อปพอสมควรค่ะ ด้วยความที่ว่าขั้วต่อสายไฟเสริมก็จะใช้ PCle 8 Pin ถึง 2 เหมือนกันดังนั้นเราจะต้องคำนวนเรื่องการจ่ายไฟของระบบให้ดี ถึงแม้ว่าจะมีการอธิบายเอาไว้แล้วว่าขั้นต่ำควรใช้ Power Supply 750 วัตต์ แต่มันก็มีกรณีที่ไฟไม่เพียงพอ ถ้าจะให้เกวลินแนะนำจริง ๆ ควรประมาณ 850 วัตต์ขึ้นไปจะดีมาก ๆ เลยค่ะ ก็เรียกว่าหลังจากที่ประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราในช่วงแรกไป กลายเป็นการ์ดจอรุ่นที่ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์ผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก มันคือการ์ดจอตัวรองท็อปที่มีราคาไม่สูงจนเกินไปแต่แลกมากับประสิทธิภาพที่ถ้าให้เทียบกับรุ่น GeForce RTX 2000 Series การตอบรับยังไม่เท่านี้เลยค่ะ ซึ่งเพื่อนของเกวลินที่สนิทกันเขาตัดสินใจเปลี่ยนการ์ดจอจากเดิมใช้ GeForce GTX TITAN X มาเป็น GeForce RTX 3080 ผลที่ได้ก็คือ “ใช้งานได้ดีกว่าการ์ดตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน” โดยเกมที่เขาเลือกลองทดสอบก็คือ Cyberpunk 2077 เริ่มทดสอบในความละเอียด 1080p ที่ปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing พบว่าเฟรมเรตสูงมาก ๆ แล้วจากนั้นลองสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วยสามารถทำได้ด้วยเช่นกัน “การ์ดจอตัวท็อปที่เล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นไหล แต่ก็สู้อะไรใหม่ ๆ ใน 30 Series ไม่ได้เลย!” จากนั้นก็มีการขยับผลการทดสอบมาเทสในความละเอียด 2K หรือ 1440p แบบปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ แล้วตามมาด้วยการลองสตรีมถ่ายทอดสดบน Youtube ในความละเอียด 1440p/60fps ก็ทำได้ดีแถมยังเหลือ ๆ อีกด้วย บ่งบอกได้เลยว่าการ์ดจอ GeForce RTX 3080 ที่ทาง NVIDIA เครมเอาไว้เลยว่า “มันถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมในความละเอียด 4K ได้อย่างสบาย ๆ” มันสามารถทำได้ตามที่เขาพูดเอาไว้จริง ๆ ค่ะ ดังนั้นถ้าสเปกภายในเครื่องของเราไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ Ram ของเราเป็นตัวท็อป ๆ การ์ดจอรุ่นนี้คุ้มค่าที่คุณจะยอมเสียเงินเป็นอย่างมากค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3080 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เรื่องของราคาก็จัดอยู่ในระดับที่สูงเหมือนกัน แต่ถ้าคุณมีเงินมากพอแล้วอยากจะเล่นเกมแบบลื่นไหลมันก็น่าลงทุน การ์ดจอตัวนี้ก็ยังคงกินไฟสูงเหมือนกัน ดังนั้นต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply กันด้วยนะคะ ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่มีสเปกส่วนอื่น ๆ ก็สูงอยู่แล้ว การ์ดจอตัวนี้จัดไป เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างสบาย ๆ GeForce RTX 3070 เราพูดถึงการ์ดจอตัวท็อปและรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” กันไปแล้ว เรามาพูดถึงตัวกลาง ๆ ที่แท้ทรูกันบ้างค่ะ โดยรุ่นนี้มีชื่อว่า “GeForce RTX 3070” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 18,900 บาทขึ้นไป ( ราคานี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่ายด้วย ) โดยทาง NVIDIA เผยว่าการ์ดจอตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า GeForce RTX 2080 Ti ที่เป็นตัวท็อปของรุ่นที่แล้ว ความพิเศษของรุ่นนี้คงเป็นเรื่องของราคาที่ดูสมเหตุ สมผลมากจริง ๆ ซึ่งเมื่อพอไปเทียบราคากับรุ่นก่อนที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว ๆ 37,000 บาทขึ้นไปมันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ รุ่นก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าปัญหาเรื่องการกินไฟของ Power Supply พอสมควร แต่ GeForce RTX 3070 จะกินไฟขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 650 วัตต์ การเลือกใช้ Power Supply ให้เหมาะสมก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักสำคัญอยู่ดีค่ะ ถ้าจะให้แนะนำควรใช้ Power Supply อยู่ที่ประมาณ 850 วัตต์กำลังดีค่ะ แถมการ์ดจอรุ่นนี้ยังใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมในรูปแบบ PCle 8 Pin เพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น ตัวการ์ดจอมีขนาดที่ใหญ่พอตัวจะกินพื้นที่อยู่ประมาณ 2 ช่อง ผู้ใช้งานเองก็จำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ของเคสด้วย แล้วถ้าเคสมีขนาดเล็กไปก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อที่เราจะสามารถจัดสายไฟแล้วการระบายความร้อนที่อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการประกอบคอมพิวเตอร์ที่ดีนั่นเองค่ะ มาพูดในเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานกันหน่อยค่ะ GeForce RTX 3070 เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในการเล่นเกมได้ทั้งความละเอียด 1080p, 1440p และ 4K ได้เหมือนกัน แต่จะทำได้ขนาดนั้น อุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU, Ram และ Mainboard ด้วย เพราะมันจะเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อให้การทำงานของการ์ดจอเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากผลการทดสอบเกวลินก็พบว่ามันสามารถรันในความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้อย่างสบาย ๆ เฟรมเรตที่ได้จากเกมอยู่ที่ 150 - 200fps กันเลยทีเดียว ส่วนเกมที่ใช้ในการรันความละเอียด 4K จะขับเฟรมเรตออกมาได้อยู่ที่ 59 - 65fps ทั้งนี้ก็อยู่ว่าเกมนั้น ๆ กินทรัพยากรมากน้อยแค่ไหน  ถ้าถามถึงความคุ้มค่า GeForce RTX 3070 มันเป็นการ์ดจอระดับกลางที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี ใครที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ แล้วกำลังมองหาการ์ดจอดี ๆ สักตัวในราคาที่ไม่แรงมากจนเกินไปมันก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยเลยค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3070 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เหมือนทาง NVIDIA เดินเกมถูกมากเพราะมันคือการ์ดจอระดับกลางที่มีราคาจับต้องได้ เป็นการ์ดจอที่กินไฟน้อยกว่า 2 ตัวท็อปก่อนหน้านี้ แต่ยังไงก็ต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply อยู่ดี คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์สเปกกลาง ๆ แล้วอยากเปลี่ยนการ์ดจอเพื่อใช้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น ตัวนี้ก็เหมาะดี เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างลื่นไหล GeForce RTX 3060 Ti มาถึงการ์ดจอตัวสุดท้ายของ “GeForce RTX 30 Series” ที่พึ่งประกาศเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เลยรุ่นที่มีชื่อว่า “GeForce RTX 3060 Ti” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,900 บาทขึ้นไป ( เหมือนเดิมค่ะ ราคาก็จะอยู่ที่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) สำหรับการ์ดจอตัวนี้ยังถือได้ว่าเป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกปรับสภาพลดลงมาจาก GeForce RTX 3070 เล็กน้อย ทาง NVIDIA ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าตัวการ์ดจอรุ่นนี้ออกแบบมาให้เกมเมอร์ทั้งคนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ระดับที่ต่ำลงมาอีกนิดสามารถเป็นเจ้าของการ์ดจอตระกูล GeForce RTX 30 Series ได้ไม่ยาก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีกว่าการ์ดจอรุ่นเก่าของ GeForce RTX ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน สำหรับ “GeForce RTX 3060 Ti” ถือได้ว่าเป็นการ์ดจอที่กินพลังงานไฟน้อยมาก ๆ เพราะทาง NVIDIA อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ที่เหมาะสมในการใช้งานที่สุดอยู่ที่ประมาณ 600 วัตต์ นั้นหมายความว่าถ้าจะให้ดีผู้ที่ใช้การ์ดจอตัวนี้ต้องเลือก Power Supply อยู่ที่ประมาณ 700 - 800 วัตต์กำลังดีค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์กลาง ๆ ก็คงไม่ได้ตกแต่งอะไรมากก็จะใช้กำลังไฟอยู่ที่ราว ๆ นี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว ส่วนการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” มีการทดสอบออกมาเรียบร้อยแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานในการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p กับ 1440p ที่สามารถปรับสุดแล้วเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตที่ได้ก็อยู่ในระดับที่เกินคาดเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ถ้าเราเผลอเปิดใช้งานเทคโนโลยี RTX เฟรมเรตอาจจะดรอปลงไปบ้างเพราะมันจะรีดประสิทธิภาพการ์ดจอให้ทำงานเกือบ 100% ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ที่คิดว่าจะซื้อการ์ดจอตัวนี้มาเล่นเกมแบบปรับสุดทุกอย่างแล้วก็เปิด RTX พร้อมกับสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วย สิ่งที่เราจะต้องคำนึกถึงก็คือว่า “สเปกภายในเครื่องของเราเพียงพอหรือเปล่า!?” ทั้ง CPU ที่เราใช้งานอยู่เป็นระดับไหน แล้วก็ Ram ที่มีอยู่ภายในเครื่อง แม้ว่าจะติดตั้งเอาไว้ 16 GB. แต่บางทีก็ต้องคำนึกถึงตอนเราเล่นเกม ตอนเปิดโปรแกรมต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เพราะปัจจุบัน Ram 16 GB. มันกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่งั้นตอนสตรีมถ่ายทอดสดเปิดอาการกระตุกจนคนดูไม่สนุกแน่นอนค่ะ แล้วถ้าถามว่าการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” เหมาะกับเกมเมอร์ประเภทไหน จริง ๆ แล้วมันคล้าย ๆ กับรุ่นก่อนหน้านี้ค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ CPU ไม่ได้ตัวท็อปอะไรมาก ( หรือเป็นตัวท็อปจากรุ่นก่อน ๆ ) มี Ram อยู่ในตัวเครื่องสัก 16GB. ขึ้นไป แล้วการ์ดจอที่ใช้เป็นรุ่นเก่ามากแล้วรันเกมกราฟฟิกหนัก ๆ ในยุค 2018 - 2020 ที่เฟรมเรตได้ราว ๆ  45 - 50fps แถมกราฟฟิกปรับสุดก็ไม่ได้ แปลว่าเพื่อน ๆ คือหนึ่งในคนที่ควรจะเปลี่ยนการ์ดจอมาสู่ยุคสมัยใหม่ได้แล้วค่ะ แล้วยิ่งเงินในกระเป๋าไม่ได้มากพอที่จะไปเล่นตัว GeForce RTX 3070 หรือตัวรองท็อปอย่าง GeForce RTX 3080 รุ่นนี้ก็ถือว่าเหมาะสำหรับเกมเมอร์สายกระเป๋าแบนแฟนทิ้งได้ไม่ยากเลยค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3060 Ti ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ราคาจับต้องได้เหมาะสำหรับคนที่มีทุนไม่มากนัก การ์ดจอตัวนี้กินไฟน้อยมาก ถ้าซื้อมาแล้วยังไงก็ต้องจัดการระบบไฟฟ้าให้ดีไม่งั้นอาจจะไม่เพียงพอ คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ต่ำลงมา แล้วใช้การ์ดจอรุ่นเก่าที่รันเกมในช่วง 2 - 3 ปีนี้แบบปรับสุดไม่ได้ มันก็เหมาะที่จะเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้นะ เป็นการ์ดจอที่รองรับในการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้สบาย ๆ แต่ระดับ 4K เฟรมเรตอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่คาดหวังหนัก ต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่าตอนนี้ทาง NVIDIA เตรียมเปิดตัวการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ของตระกูล “GeForce RTX 30 Series” ในปี 2021 เพิ่มเติมอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น GeForce RTX 3080 Ti, GeForce RTX 3070 Ti, GeForce RTX 3060 และ GeForce RTX 3050 ใครที่ลังเลว่าจะรอตัวใหม่ ๆ ดีหรือเปล่าอันนี้ก็มาดูกันอีกทีว่าเรื่องของราคา, ความคุ้มค่า และ สเปกภายในเมื่อใช้งานจริง ทดสอบจริงแล้วมันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ที่เกวลินทราบมาก็คือมันก็ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนมากเท่าไหร่ แต่มีการเพิ่มความเร็วนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ก็เพิ่ม Ram ความจุให้สูงขึ้นเป็นต้น ก็หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนการ์ดจอช่วงนี้ได้ไม่มากก็น้อยค่ะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าสวัสดีค่ะ!
17 Dec 2020
Nvidia เตรียมวางจำหน่าย GeForce RTX 3080 Ti ต้นปีหน้า!
GeForce RTX 3080 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสินค้าหากยากสำหรับชาว PC ไปแล้วในตอนนี้ ซึ่งจากที่เราได้มีโอกาสใช้งานการ์ดจอดังกล่าวมาแล้ว บอกได้คำเดียวว่าใครซื้อทันถือว่าโชคดีมากๆ ส่วนคนที่อยากได้เจ้า 3080 มากๆ แต่ไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหนดี ตอนนี้ผมคิดว่ารออีกหน่อยเราอาจจะได้สินค้าที่ดีกว่าในช่วงต้นปีหน้าครับ! จากรายงานล่าสุดของเว็บไซต์ hkepc ดูเหมือนว่า Nvidia มีแผนจะวางขาย GeForce RTX 3080 Ti เพื่อสู้กับ RX 6900 XT จากทาง AMD โดยเจ้า 3080 TI จะมาพร้อมกับ GDDR6X ถึง 20 GB และมี CUDA core  จำนวนเทียบเท่ากับ RTX 3090 ซึ่งหมายความว่ามันจะเป็นการ์ดจอที่แรงมากๆ ครับ ดังนั้นสำหรับใครที่ยังหาซื้อ 3080 ไม่ได้ ผมว่ารออีกสักหน่อยแล้วซื้อ 3080 Ti ไปเลยน่าอาจจะเป็นการดีกว่าครับ GeForce RTX 3080 Ti จะวางจำหน่ายในเดือน มกราคม 2021 จากรายงานของ hkepc ครับ Credit: VideocardZ
11 Nov 2020
รีวิวการ์ดจอ RTX 3080 FE พร้อมตอบคำถาม "คุ้มหรือไม่หากจะอัพเกรดในตอนนี้"
วางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้วกับการ์ดจอ RTX 3080 ซึ่งต้องบอกเลยว่าขายดีเกิดคาดจริงๆ ครับ เพราะสินค้าเล่นหมดไปจากตลาดโลกเลย ในเวลาเพียงแค่ 1 วันหลังวางจำหน่ายเท่านั้น จนน่าจะทำเอาเพื่อนๆ หลายคนสงสัยว่า "เจ้าการ์ดจอ RTX 3080 ตัวใหม่นี้มันดีขนาดนั้นเลยเหรอ? " อยู่ไม่มากก็น้อย ถือเป็นโชคดีของพวกเรา GameFever TH ที่ทาง Nvidia ได้ส่งการ์ดจอหายากตัวนี้มาให้เราได้ทดลองใช้งานกัน ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ โดยวันนี้ผมจะมารีวิวให้เพื่อนได้รู้กันว่าเจ้า RTX 3080 มีดียังไง และมันคุ้มหรือไม่ หากจะจ่ายเงินถึง 25,000 บาทให้ได้มา ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ คุณสมบัติทางเทคนิค RTX 3080 นั้นใช้สถาปัตยกรรมในการผลิตใหม่ที่มีชื่อว่า Ampere ซึ่งเป็นการผลิตแบบ 8 นาโนเมตร ต่างจาก Turing สถาปัตยกรรมก่อนหน้านี้ (RTX 20 Series) ที่เป็นการผลิตแบบ 12 นาโนเมตร จึงส่งผลให้จำนวนทรานซิสเตอร์ทั้งหมดของการ์ดจอซีรีส์นี้มีสูงถึง 28 พันล้านตัว มากกว่าเจนที่แล้วที่ถึง 10 พันล้านตัว โดยผมจะแปะคุณสมบัติเบื้องต้นที่ไม่ลึกเกินไปข้างล่างนี้ครับ ข้อมูลจำเพาะของ GPU Engine: NVIDIA CUDA® Core 8704 Boost Clock (GHz) 1.71 Base Clock (GHz) 1.44 ข้อมูลจำเพาะของหน่วยความจำ: กำหนดค่าหน่วยความจำมาตรฐาน 10 GB GDDR6X ความกว้างของอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 320 บิต เปรียบเทียบ ( กราฟิกที่ได้/FPS ) ในเรื่องของกราฟิก ผมเชื่อว่าเกมเมอร์บนเครื่อง PC หลายคนยังไงใช้การ์ดจอ GTX ซีรีส์ 9 ไม่ก็ 10 อยู่ และมีความตั้งใจจะเปลี่ยนมาใช้การ์ดจ่อซีรีส์ RTX กันในรุ่นนี้ ผมจึงจะขอทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของกราฟิกระหว่าง 1080Ti กับ 3080 ก่อนละกันครับ ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าความแตกต่างระหว่างการ์ดจอทั้ง 2 ตัว จะเป็นในเรื่องของ RTX On / Off มากกว่าครับ เนื่องจากจริงๆ 1080Ti นั้นเพียงพอที่จะปรับกราฟิกแบบเต็มแม็กในความละเอียดแบบ Full HD แล้วยังได้ 60 FPS อยู่แล้วในเกมเจนปัจจุบัน โดยประการแรกผมจะขอโชว์รูปเปรียบเทียบระหว่างเปิด RTX On / Off ให้เพื่อนๆ ดูก่อนครับว่าต่างขนาดไหนในเกมจริงๆ [caption id="attachment_69861" align="aligncenter" width="1024"] RTX off[/caption] [caption id="attachment_69862" align="aligncenter" width="1280"] RTX on[/caption] จะสังเกตได้ว่าแสงกับเงา ที่เราได้เห็นในเกมหากเปิด RTX On จะมีความสมจริงกว่าไม่เปิด (อย่างน้อยคือการสะท้อนของเงามีความถูกต้องมากกว่า) ดังนั้นสำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์แสงเงาที่ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนมาใช้ RTX 3080 เลย ผมคิดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ ครับ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยากเป็น RTX ถ้าคำนึงถึงความแตกต่างของ FPS ผมก็ยังคิดว่าคุ้มที่จะเปลี่ยนมาใช้อยู่ดี ซึ่งจะขอเปรียบเทียบให้ดูต่อไปข้างล่างนี้ครับ ในเรื่องของ FPS เชื่อว่าสำหรับเกมเมอร์หลายคนแล้ว เรื่องของ FPS เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คาดหวังจะได้เห็นความแตกต่าง ซึ่งมันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วที่ การ์ดจอรุ่นใหม่จะต้องแรงกว่ารุ่นเก่า แต่จะแรงกว่าถึงขนาดที่คุ้มค่ากับการเปลี่ยนรึเปล่า มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ โดยวันนี้ผมได้ทำกราฟเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้นมาให้ครับ ดูได้ข้างล่างนี้เลย ( ป.ล ผล FPS ที่ได้นี้ทดลองด้วย CPU: Intel i9 10900K ครับ ) [gallery ids="69589,69590,69591,69592,69593,69594,69595,69596,69597"] จะสังเกตได้ว่า 3080 นั้นจะสามารถทำ FPS ออกมาได้มากกว่า 2080Ti ที่เป็นตัวท็อปของรุ่นที่แล้วได้อยู่ที่ประมาณ 20-30 FPS เท่านั้น แต่ทำได้มากกว่า 1080Ti ถึงประมาณ 50-60 FPS เลยทีเดียว ผมจึงคิดว่าสำหรับใครที่ยังใช้ GTX ซีรีส์ 9 หรือ 10 อยู่ การเปลี่ยนมาใช้ RTX 30 ดูเป็นอะไรที่ไม่แย่นักครับ ประสบการณ์ส่วนตัว เบื้องต้น ผมต้องขอออกตัวก่อนว่า ตัวผมเองเป็นเกมเมอร์ที่เน้นเล่นเกมบนเครื่อง PC ครับ และก็มีงานอดิเรกเป็นการแต่งคอม แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมยังคงใช้การ์ดจอ GTX 1080Ti อยู่ เพราะคิดว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดจอตัวใหม่ในเมื่อมันยังเล่นเกมแบบปรับภาพสวยๆ ได้อยู่ แต่การที่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบกราฟิกจัดเต็ม + RTX On เป็นครั้งแรก บอกตรงๆ ว่าถึงแม้จะไม่ค่อยได้สังเกตความแตกต่างแบบจริงจัง แต่ผมกล้าพูดได้เลยว่าความสมจริงที่มากขึ้นมันอยู่ตรงหน้าเราจริงๆ ครับ! ความสมจริงที่ผมพูดถึงอยู่นี้คือเรื่องของ "ทิศทางเงา" เมื่อเราเปิด RTX On แล้วมุมตกกระทบ และมุมสะท้อนของเงา จะมีความสมจริงก็กว่าก่อนเปิดเป็นอย่าง ซึ่งเอาจริงๆ ตอนที่เล่นเกมเราไม่ค่อยได้สังเกตุกันหรอกครับ อารมณ์มันจะเป็นแบบว่า "รู้สึกได้ว่าภาพมันสมจริงขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามันสมจริงขึ้นยังไง" ประมาณนั้นครับ สรุปสั้นๆ ง่ายๆ คือ "ประทับใจมากครับ" [caption id="attachment_69601" align="aligncenter" width="1264"] เมื่อเปิด RTX แล้ว เงาที่ได้จะสมจริงกว่า สังเกตุที่ตาข้างซ้ายของ Captain Price[/caption] ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับการ์ดจอตัวนี้ ในการ์ดจอ RTX ซีรีส์ 30 นั้นมีระบบ และฟีเจอร์ใหม่ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาอยู่หลายตัว แต่ที่เด่นจริงๆ เห็นจะเป็น NVIDIA Reflex, G Sync 360 Hz และ DLSS 2.0  ซึ่งผมจะขอกล่าวถึงรายละเอียดต่อไปข้างล่างนี้ครับ NVIDIA Reflex นี้คือเทคโนโลยีใหม่ของ Nvidia ที่จะช่วยลดความหน่วงของการตอบสนองลงอีกหลายสิบเสี้ยววินาที โดยมันจะช่วยให้คำสั่งที่เรา กดเมาส์ หรือพิมพ์ถูกส่งเข้าไปในเกมได้เร็วมากขึ้น แต่เทคโนโลยีนี้จะสามารถใช้ได้กับจอที่มี G-Sync เท่านั้น ซึ่งระบบนี้สามารถใช้ได้กับการ์ดจอตั้งแต่รุ่นที่ 9 ขึ้นมา แต่จะส่งผลดีที่สุดหากใช้กับการ์ดจอซีรีส์ 30 ครับ ถ้าถามว่ามันจะทำให้คำสั่งของเราถูกทำในเกมเร็วขึ้นขนาดไหน ผมแนะนำให้ดูตัวอย่างได้เลยในวิดีโอข้างล่างนี้ครับ G Sync 360 Hz เทคโนโลยี NVIDIA Reflex เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แต่มันจะยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกถ้าหากใช้กับการเล่นเกมด้วยค่า Hz ที่สูงถึง 360 ในเจเนอเรชั่นใหม่นี้ทาง Nvidia ได้พัฒนาให้การ์ดจอรองรับค่า Hz ที่สูงขนาดนี้ได้แล้ว เมื่อเอามารวมกับเทคโนโลยีที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ มันจึงทำให้ลดความหน่วงของการตอบสนองลงมาได้ถึงขีดสุกอย่างแท้จริงครับ DLSS 2.0 อีกหนึ่งเทคโนโลยียอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับ RTX ซีรีส์ 30 คือ Deep Learning Super-Sampling 2.0 ครับ โดยเทคโนโลยีนี้คือการลบรอยหยักของโพลิกอนแบบใหม่ที่ใช้ความสามารถทางด้าน AI เข้ามาช่วยในการคำนวณ ซึ่งจะทำให้ GPU สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และดัน FPS ออกมาได้สูงกว่าเดิม แน่นอนว่าเทคโนโลยีตัวนี้มีมาตั้งแต่ RTX ซีรีส์ 20 แต่ตัว DLSS 2.0 นี้จะสามารถทำงานได้ดีกว่าเจนที่แล้วอยู่มาก ทั้งในเรื่องของภาพที่คมชัดขึ้น และ FPS ที่มากขึ้นครับ คุ้มหรือไม่ ? RTX 3080 นั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 24,000 - 25,000 ซึ่งถ้าจะถามว่า "มันคุ้มค่ากับการซื้อมาเปลี่ยน หรือไม่?" มันคงขึ้นอยู่กับว่าตอนนี้เพื่อนๆ ใช่การ์ดจอตัวไหนอยู่ครับ โดยผมจะขอให้วิเคราะห์ให้อ่านกันด้านล่างนี้เลยครับ สำหรับคนที่ใช้ RTX ซีรีส์ 20 อยู่ จากกราฟเปรียบเทียบ FPS ด้านบนแล้ว จะสังเกตได้ว่าสิ่งที่เราจะได้จากการ์ดจอรุ่นใหม่นี้คือ FPS เฉลี่ยประมาณ 20-30 เท่านั้น โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันไม่คุ้มขนาดนั้นครับ เพราะยังไงการ์ดจอที่เราใช้อยู่ ก็สามารถปรับกราฟิกสูงๆ ได้โดยที่ไม่ได้สูญเสีย FPS ไป ซึ่งถ้าหากจะเปลี่ยนจริงๆ คิดว่ารอจนกว่าเจนต่อไปจะออกน่าจะคุ้มค่ามากกว่าครับ สำหรับคนที่ใช้ GTX ซีรีส์ 10 ลงไป สำหรับคนที่ยังใช้การ์ดจอซีรีส์ตั้งแต่ GTX ซีรีส์ 10 ลงไปอยู่ ผมคิดว่านี้คือเวลาอันควรถ้าหากจะเปลี่ยนไปใช้ซีรีส์ RTX ครับ เนื่องจากเจ้าซีรีส์ 30 นี้มีประสิทธิภาพที่สูงมาก (แรงกว่า 1080Ti ประมาณ 70-90%) แถมยังมาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย ยิ่งในยุคที่เครื่องเล่นเกมคอนโซลกำลังจะเข้าสู่เจนใหม่แบบนี้ คิดว่าเกมที่กำลังจะออกหลังจากนี้คงมีการยกระดับของกราฟิก และภาพด้วยอย่างแน่นอน ดังนั้นคิดว่าใครที่ใช้ GTX ซีรีส์ 10 ลงไป ถ้าจะเปลี่ยนเป็น RTX 3080 ตอนนี้ก็เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่าอยู่ครับ สิ่งที่ควรระวัง สุดท้ายนี้ก่อนจะออกจากบ้าน หรือเปิดเน็ตขึ้นมากดสั่งของของกัน ผมอยากจะเตือนเพื่อนๆ ว่า ความแรงของ CPU กับ GPU ไม่ควรจะแตกต่างกันมากเกินไปครับ เนื่องจากว่าถ้าหาก CPU ของเพื่อนๆ แรงไม่พอ การซื้อ RTX 3080 มาใช้อาจทำให้เกิดอาการคอขวด จนส่งผลให้การ์ดจอไม่สามารถทำงานอย่างเต็มที่ได้ และอาจทำให้ FPS ที่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าหากถามว่าควรใช้ CPU ตั้งแต่รุ่นไหนเป็นต้นไปผมคิดว่าไม่ควรต่ำกว่า Ryzen 5 3600 หรือ Intel Core i5 10400 ครับ อีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้สนใจกันด้วยคือในเรื่องของขนาดการ์ดจอครับ RTX 3080 เพราะตอนนี้ทุกรุ่นที่มีขายอยู่ในตลาดนั้นมีความยาวเทียบเท่ากับการ์ดจอรุ่น 3 พัดลมเลยครับ เคสของใครที่ไม่สามารถใส่การ์ดจอรุ่น 3 พัดลมได้ อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเคสกันด้วยครับ ท้ายที่สุดคือในเรื่องของ Power Supply โดยบนเว็บไซต์ของ Nvidia เองได้บอกว่ารุ่นนี้กินไฟมากพอสมควร ผู้ใช้งานควรมีกำลังไฟของ PSU มากกว่า 750W ขึ้น ถ้าหากว่าใครยังใช้ 650W อยู่ เล่นๆ ไปแล้วคอมอาจจะ Restart เองได้ ซึ่งนับเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมากครับ [penci_review id="69178"]
08 Oct 2020
Nvidia เผย RTX 3080 และ 3090 อาจขาดตลาดจนกว่าจะหมดปี 2020!
ในขณะที่ผู้เล่นบนเครื่องคอนโซล กำลังพบกับปัญหาที่ไม่สามารถพรีออเดอร์เครื่อง PS5 กับ Xbox Series X ได้เนื่องจากความต้องการที่มีมากเกินไป ผู้เล่นทางฝั่ง PC เองก็กำลังเจอกับสถานการณ์คล้ายๆ กัน เนื่องจาก RTX 3080 และ 3090 เองก็กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากจนไม่มีของอยู่ในตลาดเลย โดยล่าสุดจากคำพูดของ CEO บริษัท Nvidia เหมือนว่าเราคงยังไม่เห็นการ์ดจอทั้ง 2 ตัววางขายในตลาดไปอีกนานเลยครับ! Jensen Huang ได้พูดว่า "ผมเชื่อว่าความต้องการของตลาด จะมีมากกว่าสินค้าที่ผลิตได้ ไปจนกว่าจะหมดปี 2020 เลย เพราะอย่าลืมว่าช่วงวันหยุดยาวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้นผมเชื่อว่าความต้องการของตลาด จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2020" ซึ่งคุณ Jensen ยังยืนยันอีกด้วยว่า "ไม่ใช่ว่าเราผลิตไม่เพียงพอ แต่ความต้องการใน 3080 กับ 3090 มันมีมากกว่าที่คิดไว้มากจริงๆ " ดังนั้นสำหรับใครที่อยากได้การ์ดจอตัวใหม่นี้ ก็คงต้องอดใจรอกันไปยาวๆ ครับ ต้องรอดูว่าปี 2021 จะเริ่มมีสินค้าให้เราซื้อแล้วหรือไม่ต่อไป RTX 3080 และ 3090 วางจำหน่ายแล้ววันนี้! Credit: GamingBolt
06 Oct 2020
Galax ยืนยัน!! "จะมีการวางขาย RTX 3080 รุ่นแรม 20 GB ในอนาคต"
RTX 3080 ได้กลายเป็นสินค้าหายาก ซึ่งเป็นที่งต้องการของเหล่าผู้เล่นบนเครื่อง PC แล้วในตอนนี้ ความต้องการที่มากเหนือจินตนาการทำเอาสินค้าขาดตลาดในทุกประเทศทั่วโลกเลยในตอนนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่กำลังใจจดใจจ่อรอให้มีการเติมสินค้าอยู่ในตอนนี้ การรอเพิ่มอีกสักนิดอาจจะเป็นการดีกว่าครับ! ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือออกมาว่า RTX 3080 อาจมีรุ่นแรม 12 GB วางจำหน่ายตามมาในอนาคตด้วย ซึ่งวันนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงครับ เพราะ RTX 3080 อีกตัวที่กำลังจะมา ไม่ได้มีแรมแค่ 12 GB แต่เป็น 20 GB เลย! เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากทาง Galax เองในงานประชุมที่จีน ซึ่งได้มีการโชว์รูปบนสไลด์ชัดเจนว่าจะมีการวางขาย RTX 3080 รุ่นแรม 20 GB ในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการ์ดจอรหัสปริศนาอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ชื่อว่า PG142 SKU 0 ซึ่งแรงกว่า RTX 3070 ถูกเผยออกมาในรูปดังกล่าวดวย โดยเบื่องต้นคาดว่าน่าจะเป็น RTX 3070 ที่เป็นรุ่น TI ไม่ก็ Super ครับ อย่างไรก็ตามไม่มีการประกาศว่า ทั้ง 2 โมเดลจะวางจำหน่ายในวันไหน แต่ทาง VideoCardz ได้บอกว่า "ช่วงเวลาที่ทั้ง 2 โมเดลวางจำหน่าย จะขึ้นอยู่กับว่า ซีรีส์ Radeon RX 6000 ของทาง AMD จะวางจำหน่ายในช่วงไหน" ครับ RTX 3080 วางจำหน่ายแล้วตอนนี้ และ RTX 3090 จะเริ่มวางจำหน่ายวันนี้ตอน 20.00 ตามเวลาบ้านเราครับ Credit: VideoCardz
24 Sep 2020
Nvidia ยอมรับ "ไม่คิดว่า RTX 3080 จะเป็นที่ต้องการของตลาดมากขนาดนี้"!
เรียกได้ว่าขายดีเป็นเททิ้งจริงๆ ครับ กับการ์ดจอ RTX 3080 ที่เรียกได้ว่า เพียงแค่ 10 นาทีหลังจากวางขาย สินค้าก็หมดลงทันที่จากทุกหน้าร้านค้า ส่งผลให้ของขาดตลาดอย่างรวดเร็ว จากความต้องการที่สูงมากๆ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก จนส่งผลให้ราคาของ RTX 3080 บนเว็บไซต์ขายของออนไลน์ต่างๆ สูงขึ้นเกือบ 10 เท่าในตอนนี้! ล่าสุดทาง Nvidia ก็ออกมายอมรับว่าพวกเขาดูถูกความต้องการของตลาดมากเกินไป และยังยอมรับอีกด้วยว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีสินค้ามากพอจะตอบสนองต่อความต้องการซื้อจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกได้ อย่างไรก็ตามทาง Nvidia ได้สัญญาว่าพวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ในเร็ววันครับ RTX 3080 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ Finally! RTX 3080 back in stock at Amazon!https://t.co/Bg8zHRKEuZ Now just to get that arm and leg sold... pic.twitter.com/mCxZ6tQTCl — Tech Deals ?? (@TechDeals_16) September 21, 2020 Credit: PCGameN
23 Sep 2020
ลือ! การ์ดจอ RTX 3080 อาจมีรุ่นแรม 12 GB ออกตามมาในอนาคต!
ออกมาว่าจำหน่ายแล้วหลังจากเปิดตัวโชว์ความสุดยอดของเจนเนอร์เรชั่นกับการ์ดต่อ RTX 3080 โดยจากการเปรียบเทียบกับการ์ดจอรุ่นก่อนซีรีส์นี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการความแรงแบบจัดเต็ม ก็รอพบกับ RTX 3090 ได้เลยปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ตามล่าสุดมีข่าวลือว่า Nvidia อาจออกการ์ดจอที่มีความแรงอยู่ระหว่าง 3080 และ 3090 ออกมาก็เป็นได้ครับ ได้มีการปล่อยรูปภาพภายในของการ์ดจอ 3080 ออกมาบนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งพบได้ว่ามีการเว้นว่างช่องใส่แรมของตัวการ์ดจอไว้สองช่อง โดยการเว้นว่างดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งกับการ์ดจอของ MSI, Galax และ INNO3D ทำให้คิดได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะมีการ์ดวางจำหน่าย RTX 3080 รุ่นแรม 12 GB ออกมาในภายหลังครับ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ต้องรอดูต่อไปว่าทาง Nvidia จะมีการออกการ์ดจอรุ่นดังกล่าวจริงๆ หรือไม่ครับ
20 Sep 2020